ผู้นำวุฒิสมาชิกฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน ตกลงเรื่องการขยายเพดานหนี้ได้แล้ว ไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนที่เส้นตายการชำระหนี้สาธารณะจะมาถึง
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ เห็นชอบการขยายเพดานหนี้ประเทศระยะสั้น ซึ่งจะมีผลไปจนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคมแล้ว ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค. 2564 หลังจากการเจรจายืดเยื้อมานานเนื่องจากฝั่งเดโมแครตกับรีพับลิกันมีความเห็นขัดแย้งกัน จนความเสี่ยงผิดชำระหนี้สาธารณะสร้างความปั่นป่วนแก่ตลาดหุ้น
การเห็นชอบร่วมกันดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากแห่งวุฒิสภาจากพรรเดโมแครต เจรจากับนาย มิตช์ แมคคอนเนล นำเสียงข้างน้อยจากพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ยังต้องการความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภาของสภาคองเกรส และสมาชิกสภาสหรัฐฯ ต้องเผชิญปัญหานี้อีกครั้งเมื่อหลีกเลี่ยงเส้นตายชำระหนี้ของเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐฯ มีหนี้สาธารณะอยู่ราว 28 ล้านล้านดอลลาร์ โดยพวกเขาต้องชำระหนี้งวดใหม่ก่อนวันที่ 18 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า หากสหรัฐฯ ผิดชำระหนี้ มันจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างร้ายแรง รวมทั้งทำให้ระบบการเงินโลกปั่นป่วน และอาจถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยด้วยตัวเอง