ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ลดลงในวันอังคาร จากความกังวลในบริษัท เอเวอร์แกรนด์ ของจีน และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ราคาน้ำมันกับราคาทองคำบวกเพิ่ม
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 21 ก.ย. 2564 แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 50.63 จุด หรือราว 0.15% ปิดที่ 33.919.84 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 3.54 จุด หรือราว 0.081% ปิดที่ 4,354.19 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 32.49 จุด หรือราว 0.22% ปิดที่ 14,746.40 จุด
วอลล์สตรีทปิดแคบหลังตลาดผันผวนตลอดทั้งวัน จากความกังวลในสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ของจีน ที่กำลังประสบปัญหาหนี้ท่วมจนส่อแววจะล้มละลาย และนักลงทุนยังเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะจัดการประชุมในวันพุธนี้ ซึ่งอาจมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องมาตรการสนับสนุนทางการเงิน
ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ก่อนจะมีการเปิดเผยข้อมูลน้ำมันดิบในสต๊อกของสหรัฐฯ โดยนักลงทุนยังคงชั่งน้ำหนักระหว่างความต้องการพลังงานโลก ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ ขณะที่มีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนไอดา กำลังฟื้นตัวกลับมาอย่างช้าๆ
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนตุลาคม บวก 0.27 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.4% ไปอยู่ที่ 70.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 0.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือราว 0.5% ไปอยู่ที่ 70.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.8% ไปอยู่ที่ 74.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
...
ส่วนราคาทองคำ บวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากสัปดาห์ก่อนร่วง 3 วันติด จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ก่อนธนาคารกลางสหรัฐฯ จะจัดการประชุมนโยบาย โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 14.40 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.8% ปิดที่ 1,778.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์.
ที่มา : yahoo