ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ลดลงในวันศุกร์ จากความกังวลว่าการระบาดของโควิด-19 จะถ่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง สวนทางราคาทองที่ขยับลง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 10 ก.ย. 2564 ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 271.66 จุด หรือราส 0.78% ปิดที่ 34,607.72 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 34.70 จุด หรือราว 0.77% ปิดที่ 4,458.58 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ร่วง 132.76 จุด หรือราว 0.87% ปิดที่ 15,115.49 จุด

หุ้นวอลล์สตรีทลดลงเป็นวงกว้างในวันศุกร์ โดยหุ้นของบริษัท แอปเปิล เป็นตัวนำฉุดดาวโจนส์ให้ลดลง หลังศาลตัดสินว่า แอปเปิลไม่สามารถบังคับใช้ผู้พัฒนาใช้แต่ระบบจ่ายเงินของพวกเขาได้อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมของแอปเปิลจำนวน 15%-30% แต่แอปเปิลไม่โดนตัดสินความผิดข้อหาผูกขาดตลาด

การซื้อขายยังเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่มีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะประกาศมาตรการบังคับฉีดวัคซีนซึ่งจะกระทบต่อพนักงานบริษัทขนาดใหญ่และลูกจ้างรัฐรวมกว่า 100 ล้านคนก็ตาม

ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างมาก หลังจากมีรายงานว่า กำลังผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกกว่า 75% ยังคงหยุดชะงักเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว หลังจากได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคน ไอดา ขณะที่รายงานจากสำนักงานจัดการข้อมูลพลังงานที่ชี้ว่า สต๊อกน้ำมันดิบ, น้ำมันเบนซิน และก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ลดลงเมื่อสัปดาห์ก่อน ยังคงช่วยหนุนราคาน้ำมัน

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนตุลาคม พุ่งขึ้น 1.58 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.3% ไปอยู่ที่ 69.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน บวกเพิ่มเกือบ 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2% ไปอยู่ที่ 72.95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

...

ขณะที่ราคาทองคำลดลงในวันศุกร์ ขณะที่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ถูกฉุดโดยเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 7.90 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.4% ปิดที่ 1,792.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์.

ที่มา : marketwatch