- สหรัฐฯรำลึก 20 ปี เหตุวินาศกรรม 11 ก.ย. กลุ่มก่อการร้ายอัลเคดาจี้เครื่องบินโดยสารพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ในนิวยอร์ก และอาคารเพนตากอน ในรัฐเวอร์จิเนีย ดับเกือบ 3,000 ศพ
- ย้อนดูไทม์ไลน์ นับตั้งแต่อดีต ปธน.บุช ประกาศทำสงครามปราบก่อการร้ายตอบโต้ หลังเกิดเหตุวินาศกรรมช็อกโลก ส่งทหารไปทำสงครามในอัฟกานิสถานและอิรัก
- 2 ทศวรรษผ่านไป ประธานาธิบดีไบเดน ตัดสินใจถอนทหารสหรัฐฯ กลับบ้าน สิ้นสุดสงครามยาวนานที่ไม่รู้จบในอัฟกานิสถาน ครบรอบ 20 ปี เหตุวินาศกรรม 11 ก.ย.
...
11 กันยายน 2544 คือวันที่ชาวอเมริกันไม่มีวันลืม เมื่อเกิดเหตุวินาศกรรมช็อกโลก ที่เรียกว่า วินาศกรรม 11 กันยายน หรือ 9/ 11 สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัลเคดาจี้เครื่องบินโดยสาร 4 ลำ พุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก และอาคารเพนตากอน ที่ตั้งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในรัฐเวอร์จิเนีย
ส่วนเครื่องบินโดยสารอีกลำ ซึ่งเป็นลำที่ 4 ผู้โดยสารแสดงความกล้าหาญช่วยกันต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้าย จนทำให้เครื่องบินตกที่ทุ่งในรัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนจะไปพุ่งชนอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตามแผนการที่กลุ่มก่อการร้ายวางแผนกันไว้
ชาวอเมริกันและชาวโลกทั้งโกรธ สะเทือนใจ และหวาดกลัว ต่อเหตุวินาศกรรมสะเทือนขวัญที่คร่าชีวิตผู้คนมากมายนับ 2,977 ศพ บาดเจ็บกว่า 6,000 คน จนนับเป็นเหตุวินาศกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเปลี่ยนแปลงสหรัฐฯ มาจนถึงบัดนี้
7 ต.ค. 2544 เปิดฉากทำสงครามในอัฟกานิสถาน
ไม่ถึงเดือนหลังเกิดเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน จอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯในขณะนั้น ได้ตัดสินใจทำสงครามตอบโต้กลุ่มการร้ายทันที โดยอดีตประธานาธิบดีบุชเปิดฉากทำสงครามในอัฟกานิสถาน ภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการเสรีภาพยั่งยืน Enduring Freedom หลังจากกลุ่มตาลีบันปฏิเสธที่จะส่งตัว โอซามา บิน ลาเดน มาให้แก่สหรัฐฯ
ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ สามารถโค่นอำนาจกลุ่มตาลีบัน ที่ยึดครองและปกครองอัฟกานิสถานมาตั้งแต่ปี 2539 นอกจากใช้การโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มตาลีบันแล้ว กองทัพสหรัฐฯ ยังสนับสนุนกองกำลังพันธมิตรอัฟกันฝ่ายเหนือมาต่อสู้กลุ่มตาลีบันด้วย ขณะเดียวกันกองทัพสหรัฐฯ ยังส่งกำลังทหารอเมริกันราว 1,000 นาย มายังสมรภูมิรบในอัฟกานิสถานในเดือนพฤศจิกายน 2544 และได้เพิ่มจำนวนเป็น 10,000 นาย ในหนึ่งปีต่อมา
17 เม.ย. 2545 ตั้ง รบ.เฉพาะกาลอัฟกานิสถาน
มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลในกรุงคาบูล โดยมีนายฮามิด คาร์ไซ เป็นประธานาธิบดี ในขณะที่สภาคองเกรสอนุมัติเงิน 38,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนอดีตประธานาธิบดีบุชในการสร้างชาติอัฟกานิสถาน
...
10 ต.ค. 2545 อนุมัติทำสงครามในอิรัก
สภาคองเกรสได้ผ่านการลงมติอนุมัติให้รัฐบาลบุชทำสงครามในอิรัก ที่กล่าวหารัฐบาลซัดดัม ฮุนเซน แห่งอิรัก กำลังพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง ถึงแม้ไม่มีหลักฐานตามคำอ้าง โดยสหรัฐฯได้เปิดฉากทำสงครามในอิรักเมื่อปี 2546 ส่วน ซัดดัม ฮุนเซน ได้ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในปี 2549
2547-2552 ตาลีบันหวนผนึกกำลัง บุชส่งทหารสหรัฐฯเพิ่ม
ในขณะที่ความสนใจของรัฐบาลสหรัฐฯได้หันไปทำสงครามที่อิรัก ทำให้กลุ่มตาลีบันและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆได้กลับมาผนึกกำลังรวมกลุ่มกันใหม่ มีฐานที่มั่นทางภาคใต้และภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มตาลีบันสามารถเข้าออกพื้นที่ชายแดนของชนเผ่าปากีสถานได้ง่าย
ในปี 2551 กองบัญชาการภาคพื้นดินสหรัฐฯ ขอกำลังทหารเพิ่มในอัฟกานิสถานเพื่อใช้ในยุทธศาสตร์ต่อสู้กับกลุ่มตาลีบัน ทำให้บุชตกลงส่งทหารอเมริกันไปเพิ่ม และเมื่อถึงกลางปี 2551 มีทหารอเมริกันถูกส่งไปทำสงครามในอัฟกานิสถานถึง 48,500 นาย
ปี 2552 ทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานมากสุดยุคโอบามา
...
ปี 2552 ในช่วงเดือนแรกๆที่บารัค โอบามา ชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ ซึ่งในระหว่างการหาเสียง โอบามาได้ให้คำมั่นกับชาวอเมริกันว่าจะยุติสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน แต่ปรากฏว่ามีจำนวนทหารสหรัฐฯถูกส่งไปทำสงครามที่อิรักถึงประมาณ 68,000 นาย
เดือนธันวาคม ปีเดียวกัน โอบามาได้เพิ่มกำลังทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานถึง 100,000 นาย เพื่อจุดประสงค์ในการหยุดยั้งนักรบตาลีบัน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลอัฟกานิสถาน
ในขณะที่โอบามาเพิ่มจำนวนทหารสหรัฐฯ ไปยังสมรภูมิอัฟกานิสถาน แต่ขณะเดียวกันก็ประกาศกำหนดเส้นตาย ที่จะลดจำนวนทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานลงในปี 2554
2 พ.ค. 2554 เด็ดชีพ บิน ลาเดน ในปากีสถาน
ปฏิบัติการทหารหน่วยซีลของสหรัฐฯ สามารถเด็ดชีพ บุกสังหาร บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มอัลเคดาที่หลบซ่อนในปากีสถานได้สำเร็จในวันที่ 2 พฤษภาคม 2554
...
มิ.ย. 2554 โอบามาประกาศจะเริ่มถอนทหารสหรัฐฯ
อดีตประธานาธิบดีโอบามาประกาศจะเริ่มถอนกำลังทหารสหรัฐฯ จากอัฟกานิสถาน ในขณะที่มีความพยายามจัดเจรจาครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กลุ่มตาลีบัน และรัฐบาลอัฟกานิสถาน
ขณะที่ธันวาคม ปีเดียวกัน สหรัฐฯถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากอิรัก
2557 สหรัฐฯ ยุติปฏิบัติการสู้รบในอัฟกานิสถาน
กันยายน 2557 รัฐบาลอัฟกานิสถานมีการลงนามในข้อตกลงความมั่นคงสองฝ่าย ระหว่างสหรัฐฯ และข้อตกลงแบบเดียวกันกับนาโต ซึ่งมีทหารต่างชาติ 12,500 นาย ในสังกัดนาโต โดยสหรัฐฯจะยังคงทหาร 9,800 นายในปี 2558 หลังจากนาโตยุติภารกิจการสู้รบในอัฟกานิสถานปลายปี 2557
ภารกิจของทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน คือการปราบปรามการก่อการร้ายของกลุ่มตาลีบันและการฝึกสอนทักษะการสู้รบให้แก่ทหารกองทัพรัฐบาลอัฟกานิสถาน
ตั้งแต่ปี 2559 รัฐบาลโอบามาได้เริ่มถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน ถึงแม้เมื่อมาถึงยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีการกลับมาส่งทหารสหรัฐฯ 3,000 นายไปยังอัฟกานิสถานเพิ่มอีกจนมีทหารสหรัฐฯ ประจำการในอัฟกานิสถาน เมื่อถึงสิ้นปี 2560 ประมาณ 14,000 นาย
28 ม.ค.2562 สหรัฐฯ-ตาลีบันตกลงในกรอบการถอนทหารสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ประกาศมีการให้ผู้แทนเจรจากกับกลุ่มตาลีบัน ในกรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ และตัวแทนของตาลีบันได้ตกลงในกรอบงาน ถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน
ภายใต้กรอบงาน ซึ่งมีการเจรจากันโดยไม่ให้มีตัวแทนรัฐบาลอัฟกานิสถานมาร่วมเจรจาด้วย
ตาลีบันจะขอรับประกันความปลอดภัยว่าดินแดนในอัฟกานิสถานที่พวกเขาครอบครองอยู่จะไม่ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ หรือผู้ก่อการร้าย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการเจรจาสันติภาพระหว่างตาลีบันกับรัฐบาลอัฟกานิสถาน
29 ก.พ. 2563 สหรัฐฯ-ตาลีบันบรรลุข้อตกลงถอนทหารอเมริกันจากอัฟกานิสถาน
กลุ่มตาลีบันและรัฐบาลทรัมป์ได้บรรลุข้อตกลงในการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานในวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 โดยมีการแลกเปลี่ยนว่าตาลีบันต้องยุติการโจมตีทหารสหรัฐฯ และตัดสัมพันธ์กับกลุ่มอัลเคดา
15 ม.ค. 2564 ทรัมป์ลดกำลังทหารในอัฟกานิสถาน
ในช่วงท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น รัฐบาลทรัมป์ประกาศว่าได้ลดกำลังทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานเหลือเพียง 2,500 นาย
14 เม.ย. 2564 ไบเดน เดินหน้าถอนทหารสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งคว้าชัยการเลือกตั้ง ได้ประกาศจะดำเนินการตามข้อตกลงของทรัมป์ในการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน แต่ได้มีการเลื่อนวันเส้นตาย ควรถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ก่อนวันที่ 11 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 20 ปี วินาศกรรม 11 กันยายน
8 ก.ค. 2564 ไบเดนกำหนดเส้นตายถอนทหารสหรัฐฯ
สองวันก่อนที่ทหารสหรัฐฯจะถอนกำลังออกมาจากฐานทัพอากาศบากรัม ซึ่งเป็นฐานทัพใหญ่สุดของสหรัฐฯในอัฟกานิสถานนั้น ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศเส้นตาย จะดำเนินการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานทั้งหมดในวันที่ 31 สิงหาคม
6 ส.ค.2564 ตาลีบันโหมบุกโจมตียึดครองอัฟกานิสถาน
กลุ่มตาลีบันที่เริ่มเปิดฉากบุกยึดเมืองต่างๆ ในอัฟกานิสถานมาตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. เร่งบุกโจมตียึดเมืองต่างๆ จนสามารถยึดเมืองเอกของจังหวัดซารันจ์ ในอัฟกานิสถานได้เป็นจังหวัดแรก
15 ส.ค.2564 กรุงคาบูลแตก ตาลีบันหวนกลับยึดครองประเทศ
จากนั้น กลุ่มตาลีบันได้บุกโจมตียึดกรุงคาบูล เมืองหลวงได้อย่างรวดเร็วในวันที่ 15 สค ขณะที่ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน 'อัชราฟ กานี' หลบหนีออกนอกประเทศ จนทำให้สถานการณ์ในกรุงคาบูลตกอยู่ในความโกลาหล ตึงเครียดอย่างหนัก ผู้คนชาวอัฟกันพยายามอพยพหนีภัยออกจากอัฟกานิสถาน
26 ส.ค.2564 ไอซิสก่อวินาศกรรมสุดเหี้ยม ก่อนสหรัฐฯ จะถอนกำลัง
สหรัฐฯ ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มไอซิส-เค เครือข่ายของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ก่อเหตุวินาศกรรมสุดอำมหิต ส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามบินฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมื่อ 26 ส.ค. 2564 ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 170 ศพ ส่วนใหญ่เป็นชาวอัฟกันที่พยายามลี้ภัย และมีทหารสหรัฐฯ สิ้นชีพ 13 ศพ จนนับเป็นการสูญเสียกำลังทหารสหรัฐฯ มากที่สุดจากการถูกโจมตีคราวเดียวในรอบ 10 ปีในอัฟกานิสถาน
30 ส.ค. 2564 สหรัฐฯ ถอนทหารทั้งหมด
ขณะเหลือเวลาอีก 1 นาที จะเข้าสู่เวลา 00.00 น.วันที่ 31 ส.ค. ตามกำหนดเส้นตาย พลตรี คริส โดนาฮิว ผู้บัญชาการกองบินที่ 82 เป็นนายทหารคนสุดท้ายของสหรัฐฯเดินขึ้นเครื่องบิน c-17 ที่พาทหารสหรัฐฯ ทะยานออกจากสนามบินกรุงคาบูล มุ่งหน้ากลับมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา
31 ส.ค. 2564 ไบเดนประกาศถึงเวลายุติสงครามที่ไม่รู้จบในอัฟกานิสถาน
20 ปีของสงครามในอัฟกานิสถาน ได้ทำให้สหรัฐฯ สูญเสียทหารกว่า 2,400 ศพ และงบทำสงครามนับ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวเมื่อวันที่ 31 ส.ค 2564 ขอรับผิดชอบต่อการตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ที่เหลือทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถาน
'เมื่อคืนที่ผ่านมาในคาบูล สหรัฐฯ ยุติสงคราม 20 ปี ในอัฟกานิสถาน สงครามที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา ผมจะไม่ทำสงครามที่ไม่มีวันจบนี้ต่อไป ผมจะไม่ขยายทางออกไม่รู้จบนี้อีก’ ประธานาธิบดีไบเดน ประกาศยุติสงคราม พร้อมกับบอกว่าสหรัฐฯ ไม่ควรจะส่งทหารจำนวนมากเพื่อหวังไปสร้างชาติใดๆ อีกแล้ว.
ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์
ที่มา : https://www.aljazeera.com/news/2021/9/6/timeline-how-september-11-2001-led-to-uss-longest-war
https://www.aljazeera.com/news/2021/9/8/20-years-after-9-11-did-the-us-win-its-war-on