หุ้นสหรัฐฯ บวกแคบ ดาวโจนส์ขยับขึ้น น้ำมันพุ่งสูงสุดรอบ 1 เดือน-ทองลด

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก่อนมีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานเดือนสิงหาคม ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสู่ค่าสูงสุดในรอบ 1 เดือน ส่วนราคาทองคำลดลงเล็กน้อย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 2 ก.ย. 2564 ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 131.29 จุด หรือราว 0.37% ปิดที่ 35,443.82 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 บวกเพิ่ม 12.86 จุด หรือราว 0.28% ปิดที่ 4,536.95 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ขยับขึ้น 21.80 จุด หรือราว 0.14% ปิดที่ 15,331.18 จุด

วอลล์สตรีทอยู่ในแดนบวกทั้งวันในวันพฤหัสบดี โดยเอสแอนด์พี 500 ทำนิวไฮระหว่างวันก่อนจะลดลงมาในช่วงท้ายของการซื้อขาย ส่วนแนสแด็กทำสถิติใหม่เช่นกัน ขณะที่ดาวโจนส์ กลับมาบวกแล้ว หลังจากลดลงติดต่อกันถึง 3 วัน

นักลงทุนกำลังเฝ้ารอกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานจ้างงานประจำเดือนสิงหาคม โดยคาดกันว่า จะแสดงเห็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงจากเมื่อเดือนก่อน เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดว่า อัตราว่างงานจะลดลงไปอยู่ที่ 5.2% ต่ำที่สุดในยุคโควิด

รายงานดังกล่าวยังถือเป็นข้อมูลจ้างงานสำคัญฉบับสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะได้รับ ก่อนที่พวกเขาจะจัดการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนนี้ โดยเฟดเคยส่งสัญญาณออกมาว่า จะจับตาดูตลาดแรงงานเป็นพิเศษ ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวเพียงพอที่พวกเขาจะผ่อนคลายมาตรการซื้อสินทรัพย์หรือยัง

ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสู่ค่าสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน จากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเมื่อวันพุธ มีรายงานว่าน้ำมันดิบในสต็อกของสหรัฐฯ ลดลงถึง 7.169 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน นอกจากนั้น ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงก็มีส่วนหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2% ไปอยู่ที่ 69.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงที่สุดนับตั้งแต่ 3 ส.ค. ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8% ไปอยู่ที่ 72.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ส่วนราคาทองคำลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ เหตุนักลงทุนกำลังเฝ้ารอข้อมูลการจ้างงานที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 4.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.3% ปิดที่ 1,811.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์.

ที่มา : yahoo