คราบน้ำมันในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งรั่วไหลมาจากโรงกลั่นขนาดใหญ่สุดในซีเรีย กระจายวงกว้างมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะลอยไปไกลถึงเกาะไซปรัส
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานในวันพุธที่ 1 ก.ย. 2564 ว่า ทางการซีเรียเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า แท็งก์น้ำมันซึ่งบรรจุเชื้อเพลิงไว้ถึง 15,000 ตัน ที่โรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อน ในเมืองบานิยาส บริเวณชายฝั่ง รั่วไหลออกมาตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. แม้ตอนนี้จะควบคุมได้แล้ว แต่มีน้ำมันไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นจำนวนมาก
ภาพถ่ายจากดาวเทียมล่าสุด ซึ่งวิเคราะห์โดยบริษัท Orbital EOS ชี้ว่า น้ำมันที่รั่วไหลออกมามีจำนวนมากกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรก โดยตอนนี้มันแผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่กว่า 800 ตร.กม. หรือเทียบเท่าพื้นที่ของนครนิวยอร์ก และอยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะไซปรัสเพียง 7 กม.เท่านั้น
ด้านกรมวิจัยการเดินทะเลและสัตว์น้ำของไซปรัส ระบุว่า เมื่อดูจากการจำลองการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันและข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา คราบน้ำมันอาจเดินทางมาถึงแหลมอโพสโตลอส แอนเดรียส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองบานิยาสไปทางตะวันตกราว 130 กม. ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ทั้งนี้ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีภาพมากมายถูกเผยแพร่ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นคราบน้ำมันเปรอะเปื้อนชายฝั่งเมืองบานิยาส และเมืองเจเบลห์ ของซีเรีย ขณะที่ชาวบ้านท้องถิ่นหลายคนออกมาเตือนว่ามลภาวะที่เกิดขึ้นอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล
ชาวเมืองบานิยาสคนหนึ่งบอกกับซีเอ็นเอ็น ว่า พื้นที่ชายฝั่งปนเปื้อนหนักมาก “ผู้คนไม่ต้องการสิ่งนี้ การใช้ชีวิตที่นี่ยากลำบากอยู่แล้ว และแน่นอนว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อครอบครัวมากมาย และทำให้พวกเขาสูญเสียรายได้” “รัฐบาลเพียงส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้ามาพร้อมกับฟองน้ำและสายฉีดน้ำ พวกเขาไม่มีขีดความสามารถในการจัดการเรื่องนี้ คุณทำความสะอาดทะเลด้วยฟองน้ำไม่ได้”
...
ส่วนตุรกีซึ่งมีพรมแดนและแนวชายฝั่งติดกับซีเรีย ถูกดึงเข้ามาร่วมจัดการปัญหาคราบน้ำมันอย่างช่วยไม่ได้ โดยตอนนี้พวกเขากำลังใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อหยุดยั้งไม่ให้การรั่วไหลครั้งนี้กลายเป็นหายนะทางสิ่งแวดล้อม.