สหรัฐฯ ยอมรับ ทิ้งอาวุธไว้ในคาบูลอื้อ แต่ทำให้ใช้การไม่ได้แล้ว

กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับว่า ทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากเอาไว้ในกรุงคาบูล หลังจากกองทัพถอนทหารทั้งหมดออกไป แต่ยืนยันว่า อุปกรณ์ทั้งหมดถูกทำให้ใช้การไม่ได้แล้ว

สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันอังคารที่ 31 ส.ค. 2564 ว่า พลเอก เคนเนธ แมคเคนซี หัวหน้ากองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ ยอมรับว่า กองทัพทิ้งอากาศยาน 73 ลำ กับยานพาหนะเกือบ 100 คัน รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ เอาไว้ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ก่อนที่พวกเขาจะถอนกำลังทั้งหมดออกไปในวันเดียวกันนี้ แต่ทั้งหมดถูกทำให้ใช้การไม่ได้แล้ว

ยุทโธปกรณ์ที่ถูกทิ้งไว้รวมถึง รถหุ้มเกราะต้านทานทุ่นระเบิดและการซุ่มโจมตี (MRAP) จำนวน 70 คัน มูลค่าคันละประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32.2 ล้านบาท) กับรถฮัมวี่ 27 คัน ซึ่งเลิกใช้ไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วย MRAP

นายพลแมคเคนซีไม่ได้ระบุว่า อากาศยานที่กองทัพทิ้งเอาไว้ทั้ง 73 ลำ เป็นยานพาหนะชนิดใดบ้าง แต่เขายืนยันว่า “อากาศยานเหล่านั้นไม่มีวันที่จะบินได้อีกแล้ว”

ทั้งนี้ มีรายงานว่า อากาศยานหลายชนิดถูกทิ้งไว้ในกรุงคาบูล ทั้งเฮลิคอปเตอร์ MD-530 ซึ่งใช้ในการสอดแนมและจู่โจมระยะใกล้ กับเครื่องบินจู่โจมเบา A-29 ราคาลำละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 322.3 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงนักรบตาลีบันเข้าไปในสนามบินคาบูลแล้วพบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงพลชีนุค CH-46 ด้วย และมีภาพเครื่องบินลำเลียง C-130 ถูกทิ้งไว้บนรันเวย์

นายพลแมคเคนซีบอกด้วยว่า ระบบป้องกันภัยระยะประชิด C-RAM ถูกทำให้ใช้การไม่ได้แล้ว และทิ้งเอาไว้ที่สนามบินในกรุงคาบูล หลังจากที่พวกเขาใช้มันในการป้องกันการโจมตีด้วยจรวด 5 ลูก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และเปิดใช้งานระบบนี้จนกระทั่งเครื่องบินของสหรัฐฯ ลำสุดท้ายเดินทางออกไป.