• เผยภารกิจลับของทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ ร่วมกับหน่วย SEAL ที่เคยผ่านสงครามในอัฟกานิสถาน ปฏิบัติภารกิจสุดเสี่ยงอพยพเพื่อนทหารหน่วยคอมมานโดอัฟกันและครอบครัวลี้ภัย ท่ามกลางคำเตือนไอซิสมีแผนก่อวินาศกรรมสนามบิน
  • สุดสลด มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุระเบิดรุนแรงบริเวณทางเข้าหลักสนามบินคาบูล เสียชีวิตอย่างน้อย 170 ศพ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ นาวิกโยธินสหรัฐฯ 13 นาย จนถือเป็นการสูญเสียกำลังทหารสหรัฐฯ มากที่สุดในรอบ 10 ปี
  • กลุ่มไอซิส-เค เครือข่ายไอซิส ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดสนามบินคาบูล ขณะที่เส้นตายถอนกำลังทหารและพลเมืองต่างชาติทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานใกล้มาถึงในวันที่ 31 สิงหาคม 

โหดเหี้ยม เขย่าขวัญ สะเทือนใจอย่างที่สุด เมื่อเกิดเหตุวินาศกรรม ระเบิดรุนแรง ที่สนามบินนานาชาติ ฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน เมื่อ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปอย่างน้อย 170 ศพ และในจำนวนนี้ เจ้าหน้าที่ นาวิกโยธินสหรัฐฯ สังเวยชีวิตรวม 13 ศพ และชาวอังกฤษอย่างน้อย 3 ศพด้วย

เหตุระเบิดโจมตีสนามบินคาบูล ถือเป็นการลงมือก่อเหตุวินาศกรรมที่สุดแสนอำมหิต เพราะพุ่งเป้าโจมตีทหารสหรัฐฯ ที่พยายามเร่งอพยพชาวอัฟกันออกจากอัฟกานิสถาน ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ตามที่กลุ่มตาลีบันซึ่งหวนกลับมายึดครองประเทศอัฟกานิสถานได้อีกครั้งได้ตกลงไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร

...

เผยทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ ยอมพลีชีพ ภารกิจเสี่ยงตาย

สำหรับปฏิบัติการโดยกลุ่มทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ ที่เคยผ่านศึกสงครามในอัฟกานิสถานมาก่อน ทั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพบกหสรัฐฯ หรือ กรีน เบอเรต์ และหน่วย SEAL หน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษทางเรือ ซึ่งได้เดินทางมายังอัฟกานิสถาน ขณะรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามที่จะอพยพพลเมืองชาวอเมริกัน 1,000 คนและชาวอัฟกันหลายพันออกจากอัฟกานิสถานเมื่อวันอังคารที่ 24 ส.ค.

จากนั้น 2 วันต่อมา กลุ่มทหารหน่วยกรีน เบอเรต์ และหน่วย SEAL ของสหรัฐฯ ยอมเสี่ยงชีวิต ปฏิบัติการลับเพื่อหวังอพยพเพื่อนทหารหน่วยคอมมานโดชาวอัฟกันและสมาชิกในครอบครัว ออกจากอัฟกานิสถานในคืนวันพฤหัสบดี ที่ 26 สิงหาคม ด้วยความสำนึกในบุญคุณของ ทหารคอมมานโดอัฟกัน เพื่อนเหล่านี้ที่เคยช่วยเหลือพวกเขาในสงครามมาก่อน แม้ตระหนักดีว่าภารกิจครั้งนี้มีความเสี่ยงอย่างยิ่ง ในขณะที่หน่วยข่าวกรองได้แจ้งเตือนว่ากลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส กำลังมีแผนก่อวินาศกรรมโจมตีทหารอเมริกัน

สำหรับปฏิบัติการลับเสี่ยงตายครั้งนี้ใช้ชื่อว่า "PineApple Express" เกิดขึ้น หลังจากมีทหารหน่วยคอมมานโดอัฟกันนายหนึ่งได้ติดต่อมายังกำลังทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ ว่าเขาต้องการหนีจากกลุ่มตาลีบัน และวีซ่าของเขาไม่ได้รับอนุมัติหลังจากกลุ่มตาลีบันยึดครองอัฟกานิสถานได้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ตามเวลาในประเทศไทย

ท่ามกลางสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง ปฏิบัติการลับครั้งนี้จึงเกิดขึ้น โดยนาวิกโยธินสหรัฐฯ จะไปประจำการที่หน้าประตูทางเข้าหลักเพื่อคัดเลือกชาวอัฟกันที่มีสิทธิจะได้ลี้ภัยขึ้นเครื่องบินทหารสหรัฐฯ และชาวอัฟกันที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสนามบินกรุงคาบูลได้ ต้องบอกรหัสลับกับทหารสหรัฐฯ ว่า "Pineapple" หรือไม่ก็ต้องแสดงรูปสับปะรด บนโทรศัพท์มือถือ

หลังจากสามารถช่วยชาวอัฟกันหลายร้อยคนผ่านประตูสนามบินเข้ามาได้ จากนั้น ทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ จึงเริ่มภารกิจลับสุดเสี่ยง เพื่อช่วยเพื่อนทหารอัฟกันและครอบครัวของพวกเขาเข้ามาในสนามบินในคืนวันที่ 26 สิงหาคม 

กองทัพสหรัฐฯ สูญเสียกำลังพลมากที่สุดในรอบทศวรรษ

แต่แล้วในที่สุด ได้เกิดเหตุการณ์วินาศกรรมสุดสะเทือนใจ มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุระเบิดรุนแรง ที่บริเวณแอบบีย์ เกต ประตูทางเข้าหลักของสนามบินนานาชาติกรุงคาบูล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสลดอย่างน้อย 170 ศพ รวมทั้งแพทย์ทหารเรือ 1 นาย และนาวิกโยธินสหรัฐฯ 12 นาย รวมเป็น13 นาย จนถือเป็นการสูญเสียทหารสหรัฐฯ มากที่สุดภายในวันเดียว ในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 หลังสหรัฐฯ เปิดฉากทำสงครามในอัฟกานิสถานมายาวนานนับ 2 ทศวรรษ นับตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ในปี 2544

...

ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินคาบูล มี ชาวอัฟกันในภารกิจลับ "PineApple Express" นี้ด้วย โดยต่อมา กลุ่มทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าภารกิจลับครั้งนี้ สามารถช่วยทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษอัฟกันและครอบครัวเข้ามาในสนามบินเพื่อลี้ภัยออกจากอัฟกานิสถานได้ 500 คนและพวกเขาได้พาพวกเขาเหล่านี้ไปอยู่ภายใต้การคุ้มกันของทหารสหรัฐฯ แล้ว

สภาพความเสียหายหลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่บริเวณประตูทางเข้าสนามบินนานาชาติในกรุงคาบูล เมื่อ 26 สิงหาคม 2564
สภาพความเสียหายหลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่บริเวณประตูทางเข้าสนามบินนานาชาติในกรุงคาบูล เมื่อ 26 สิงหาคม 2564

กลุ่มไอซิส-เค อ้างอยู่เบื้องหลังระเบิดคาบูล

...

หลังเกิดเหตุวินาศกรรมที่สนามบินคาบูลและโรงแรมบารอน กลุ่มไอซิส-เค หรือ กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามจังหวัดโคราซาน ซึ่งแยกตัวออกมาจากกลุ่มตาลีบันได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ ก่อนที่ต่อมา กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ได้ออกมาสำทับความเหี้ยมโหดของกลุ่มไอซิสว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่คาบูล 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯเสียใจ ขณะแถลงหลังเกิดเหตุวินาศกรรม ระเบิดสนามบินคาบูล
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯเสียใจ ขณะแถลงหลังเกิดเหตุวินาศกรรม ระเบิดสนามบินคาบูล

ประธานาธิบดีไบเดน ประกาศกร้าว เอาคืนแน่ ไม่ขอให้อภัย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศกร้าวว่าสหรัฐฯ จะไม่ขอให้อภัย และจะไม่มีวันลืม ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุวินาศกรรมที่สนามบินในกรุงคาบูล โดยสหรัฐฯ จะขอตามล่าคนเหล่านี้เพื่อนำตัวมาชดใช้ในความเหี้ยมโหดที่ได้ทำลงไป

...

ก่อนวันรุ่งขึ้น กองกำลังสหรัฐฯ ได้ส่งโดรนโจมตีเด็ดชีพคนวางแผนก่อวินาศกรรมที่จังหวัดนันกาฮาร์ ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถานทันที

ในขณะที่กำลังทหารสหรัฐฯ ยังคงเร่งอพยพพลเมืองและชาวอัฟกันอีกราว 8,500 คน แม้จะมีความเสี่ยงจะเกิดเหตุวินาศกรรมโจมตีครั้งใหม่อีก ในขณะ "เส้นตาย" ถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานกำลังงวดเข้ามาและเวลาเหลือน้อยลงทุกทีๆ. 

ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์

ที่มา: Dailymail ,abc