ชาวออสเตรเลียในหลายเมืองใหญ่ รวมทั้งเมลเบิร์น และซิดนีย์ ชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด ปะทะตร. ขณะที่พบติดเชื้อรายใหม่พุ่ง ทำสถิติสูงสุดของประเทศ
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น และรอยเตอร์รายงานชาวออสเตรเลียหลายพันคน ในเมืองใหญ่หลายเมืองของประเทศ รวมทั้งเมืองเมลเบิร์น ออกมาชุมนุมเดินขบวนไปตามท้องถนน ในวันเสาร์ที่ 21 ส.ค. ประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ของทางการเพื่อพยายามควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่ดำเนินมานานเกือบ 2 เดือน อีกทั้งทางการยังได้สั่งขยายล็อกดาวน์เมืองซิดนีย์ เมืองเอกรัฐนิวเซาท์เวลส์ออกไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงขึ้น
ผู้ชุมนุมประท้วงเหล่านี้ในเมืองเมลเบิร์นแสดงการต่อต้านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการไม่สวมหน้ากากอนามัยระหว่างการชุมนุม นอกจากนั้นยังเกิดเหตุรุนแรง การปะทะกันระหว่างม็อบกับตำรวจปราบจลาจลในเมืองเมลเบิร์น ซึ่งทางการได้ระดมกำลังตำรวจกว่า 4,000 นายมาควบคุมฝูงชน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 7 นาย ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่มีผู้ชุมนุมถูกตำรวจจับกุมในข้อหาฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด-19 จำนวนหลายร้อยคนทั้งในเมืองเมลเบิร์นและซิดนีย์
การออกมาชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมืองของออสเตรเลีย ขณะที่วันนี้ ทางการออสเตรเลียรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึง 894 ราย ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิดในออสเตรเลีย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพ ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 43,123 ราย และเสียชีวิต 978 ศพ โดยนครซิดนีย์ เมืองเศรษฐกิจที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย และเป็นเมืองเอกในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังคงเป็นเมืองที่พบการระบาดสูงสุด ทำให้ทางการได้ออกคำสั่งขยายมาตรการล็อกดาวน์จนถึงสิ้นเดือนกันยายน หลังจากได้ล็อกดาวน์มาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา
...