นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ปัดตกแผนอัดฉีดเงิน 300 ดอลลาร์ให้แก่ชาวออสเตรเลียที่รับวัคซีนแล้ว ที่เสนอโดยพรรคแรงงาน โดยเชื่อว่าชาวออสเตรเลียห่วงใยสุขภาพมากกว่าที่จะกระตุ้นด้วยเงิน

นายสก็อตต์ มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลีย ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคแรงงานที่จะให้แจกเงิน 300 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 7,300 บาท ให้แก่ผู้ที่ไปรับวัคซีนต้านโควิด-19 ทุกคน เพราะจะกลายเป็นการแสดงออกถึงการดูถูกและไม่ไว้วางใจในการตัดสินใจของชาวออสเตรเลียที่ไปรับวัคซีนมาแล้ว เพราะเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะดูแลสุขภาพตัวเอง และเขาไม่คิดว่าการกระตุ้นด้วยการแจกเงินสด จะเป็นสิ่งที่จูงใจชาวออสเตรเลียได้

โดยนโยบายที่ใช้งบราว 6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็นแผนงานที่เสนอโดย นายแอนโทนี อัลบาเนส จากพรรคแรงงาน เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่จะมีการแจกเงินจำนวน 300 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ให้ทุกคนที่ฉีดวัคซีนครบโดส ภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยระบุว่า การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่ชาวออสเตรเลียต้องเร่งดำเนินการไม่ให้ล่าช้าไปกว่านี้ พร้อมย้ำให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายมอร์ริสันควรหาวิธีการให้วัคซีนเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะให้ 80 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มผู้ใหญ่ได้รับวัคซีน เพราะยิ่งทำได้ตามเป้าหมายเร็วเท่าไร ก็จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาจากการล็อกดาวน์ได้เร็วเท่านั้น

ขณะที่ นายสก็อตต์ มอร์ริสัน ยังไม่ได้กำหนดไทม์ไลน์ที่แน่ชัดว่าจะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายในช่วงเวลาใด แต่ระบุว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ โดยขณะนี้มีชาวออสเตรเลีย 1 ใน 5 ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

...

เช่นเดียวกับ นางเกลดีส์ เบเรจิเคลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่มีการตั้งเป้าหมายที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนในรัฐให้ได้ถึง 6 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากมีการใช้วัคซีนไปแล้ว 3.9 ล้านโดส ซึ่งถ้าหากสามารถทำได้ตามเป้า ก็มีความหวังที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เร็วๆ นี้ พร้อมย้ำเตือนให้ชาวซิดนีย์ที่จะออกจากบ้านในระยะนี้ ระลึกว่า ทุกๆ คนที่เข้ามาใกล้มีเชื้อไวรัสอยู่ในตัว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น.