รัฐมนตรีเฮติเผย มีชาวอเมริกัน 2 คนอยู่ในกลุ่มผู้ถูกจับกุม 6 คน ในฐานะผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส ด้วย
จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปลอบสังหารประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส แห่งเฮติ ถึงในบ้านพักภายในเขตทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้แล้ว 6 ราย
นาย มาเทียส ปีแอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเลือกตั้งของเฮติ เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ค. 2564 ว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 6 คนเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติ โดยหนึ่งในนั้นคือนาย เจมส์ โซเลจส์ อดีตเจ้าหน้าที่คุ้มกันสถานทูตแคนาดาในกรุงปอร์โตแปรงซ์ แต่ไม่เปิดเผยว่าชาวอเมริกันอีกคนเป็นใคร
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายยิงปืนปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดุเดือด ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 4 ราย ถูกจับอีกอย่างน้อย 2 คน ส่วนที่เหลือซึ่งไม่ทราบจำนวนแน่ชัดหลบหนีไปได้ ซึ่งนาย ลียง ชาร์ลส์ ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเฮติ ประกาศกร้าวว่า การตามล่าทหารรับจ้างกลุ่มนี้จะดำเนินต่อไป และชะตาของคนร้ายถูกกำหนดเอาไว้แล้วคือ ตายในการต่อสู้หรือถูกจับกุม
...
ต่อมาในวันพฤหัสบดี สำนักข่าวเอพีรายงานว่า มีผู้ต้องสงสัย 2 คนถูกฝูงชนพบหลบอยู่ในพุ่มไม้ภายในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ก่อนที่ประชาชนจะเข้าไปรุมทำร้ายชายทั้ง 2 คน จากนั้นตำรวจจึงเดินทางมาถึง และพาตัวผู้ต้องสงสัยไปสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้ๆ โดยมีฝูงชนจำนวนหนึ่งตามมาด้วย ก่อนจะตะโกนกล่าวหาว่าชายที่ถูกจับ เป็นผู้สังหารประธานาธิบดี
ฝูงชนยังจุดไฟเผารถยนต์หลายคันที่เต็มไปด้วยรูกระสุน เพราะเชื่อว่าเป็นรถของกลุ่มผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นคนผิวขาว โดยรถยนต์เหล่านี้ไม่มีทะเบียน และในรถคันหนึ่งมีกล่องบรรจุกระสุนปืนที่ว่างเปล่าอยู่ด้วย
เมื่อสถานการณ์เริ่มบานปลาย นายชาร์ลส์จึงออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ แล้วกลับบ้าน ปล่อยให้ตำรวจได้ทำงาน พร้อมกับเตือนว่า เจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐานต่างๆ ที่กำลังถูกประชาชนทำลายทิ้งไป
ที่มา : NPR