นายกฯ บอริส จอห์นสัน ประกาศเตรียมคลายล็อกมาตรการคุมโควิดทั้งหมดในอังกฤษใน 2 สัปดาห์ ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัย ทำงานที่บ้าน และการรวมกลุ่มกันทางสังคม แม้อังกฤษพบผู้ติดโควิดเดลตาพุ่งสูง
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ แถลง เตรียมคลายมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 ในอังกฤษทั้งหมดทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ ในอีก 2 สัปดาห์หน้า (วันที่ 19 ก.ค.64) ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย การรวมกลุ่มกันในสังคม หากใครฝ่าฝืนจะได้รับโทษทางกฎหมาย และการทำงานอยู่ที่บ้าน (work from Home) เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าอังกฤษกำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ที่ทำให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหราชอาณาจักร วันที่ 5 ก.ค.ถึง 27,334 ราย
นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.ว่า การเตรียมยุติมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 เพื่อทดสอบว่าการฉีดวัคซีนจะสามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ได้หรือไม่ ในขณะที่ จากข้อมูลของรัฐบาลอังกฤษ ระบุว่ามีประชาชนในวัยผู้ใหญ่ในอังกฤษ 86% ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสแรกแล้ว และ 64% ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา
...
นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน กล่าวว่า พวกเราต้องการเวลามากขึ้นเพื่อดูหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าจะสามารถช่วยทลายความเชื่อมโยงระหว่างการติดเชื้อและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้หรือไม่ เนื่องจากมีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างแท้จริงของความสำเร็จในเรื่องวัคซีน คือการป้องกันผู้ที่ฉีดวัคซีนและติดเชื้อไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ในขณะที่ผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
'พวกเราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเราเองว่าถ้าเราไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตทางสังคมได้อีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะที่ฤดูร้อนกำลังมาถึง และเป็นช่วงวันหยุดของโรงเรียนแล้วล่ะก็ พวกเราคงต้องถามตัวเราเองว่า เราจะกลับมามีวิถีชีวิตตามปกติได้อีกหรือไม่' นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจยุติมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิดในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายในเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า (12 ก.ค.64)
สำหรับนโยบายด้านสาธารณสุขที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสันประกาศนี้จะใช้เฉพาะอังกฤษเท่านั้น ไม่รวมถึงสกอตแลนด์ เวลสต์ หรือไอร์แลนด์เหนือ เนื่องจากอังกฤษ เป็นประเทศที่เกิดการระบาดของเชื้อโควิดหนักที่สุดในบรรดาประเทศของสหราชอาณาจักร โดยอังกฤษมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก อีกทั้งนายกรัฐมนตรีจอห์นสันได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ประกาศล็อกดาวน์อังกฤษช้าจนทำให้เกิดการะบาดของเชื้อโควิดอย่างรุนแรงในระลอกที่ 3
ทั้งนี้ อังกฤษ มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 4.28 ล้าน จำนวนเสียชีวิต 1.13 แสนศพ ในขณะที่สหราชอาณาจักร ยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 4.93 ล้านราย และเสียชีวิต 1.28 แสนศพ
ที่มา : Reuters,Channelnewsasia