เจ้าหน้าที่เขตไมอามีตัดสินใจระเบิดซากตึกคอนโดฯที่ยังเหลืออยู่แล้ว หวั่นอาจถล่มลงมาซ้ำจนเกิดอันตราย ขณะพายุโซนร้อนเอลซาจ่อขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา
เมื่อ 5 ก.ค.64 เดลี่เมลรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการเขตไมอามี-เดด เคาน์ตี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจระเบิดซากตึกคอนโดมิเนียม แชมเพลน ทาวเวอร์ เซาท์ ด้านส่วนที่เหลือ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ค.64 ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ถล่มลงมาอีก เนื่องจากขณะนี้พายุโซนร้อนเอลซากำลังเคลื่อนตัวเตรียมจะขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาในคืนวันอังคารที่ 6 ก.ค. และเจ้าหน้าที่เกรงว่าอิทธิพลของพายุลูกนี้อาจทำให้ซากตึกส่วนที่เหลือนี้พังลงมา จนเกิดอันตรายเนื่องจากไม่สามารถจะควบคุมได้
ในขณะที่ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายที่คอนโดมิเนียมแชมเพลน ทาวเวอร์ เซาท์ สูง 12 ชั้น ริมชายหาดที่เมืองเซิร์ฟไซต์ ติดเมืองไมอามี ซึ่งพังถล่มลงมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 24 ศพ ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 121 ราย และทีมกู้ภัยยังไม่พบผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของตึกรอดชีวิตแม้แต่รายเดียว โดยภายหลังจากได้มีการระเบิดทำลายซากตึกส่วนที่เหลือเรียบร้อยแล้ว ทีมกู้ภัยจะกลับเข้าไปค้นหาผู้สูญหายต่อทันที
...
ทั้งนี้ ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายได้ยุติลงชั่วคราวเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ทีมพนักงานติดตั้งระเบิดถล่มซากตึกแชมเพลน ทาวเวอร์ เซาท์ ส่วนที่เหลือ ซึ่งการระเบิดทำลายตึกนี้ดำเนินการโดยบริษัท Controlled Demolition Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในรัฐแมรีแลนด์ .