ออสเตรเลียเร่งรับมือกับการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในนครซิดนีย์ ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ในชุมชุนเพิ่มติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางความสับสนในการฉีดวัคซีน


นางเกลดีส์ เบเรจิเคลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขอให้ประชาชนในนครซิดนีย์และพื้นที่ใกล้เคียง งดการเคลื่อนที่โดยไม่จำเป็น หลังยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน โดยในวันพฤหัสบดี รัฐนิวเซาท์เวลส์ พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 24 ราย ในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งพบเพิ่มจากในชุมชน ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ในระหว่างกักตัว พร้อมเตือนประชาชนว่ามาตรการล็อกดาวน์อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ หากประชาชนไม่ลดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ลง โดยยังพบว่ามีประชาชนจำนวนมากที่มีอาการคล้ายไข้หวัด แต่ก็ยังคงเดินทางไปทำงาน หรือไปซื้อของตามห้าง ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งทางการกำลังจับตาดูสถานการณ์ในช่วง 2-3 วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป

โดยขณะนี้ในหลายรัฐของออสเตรเลีย อย่างควีนส์แลนด์ และเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ยังคงมีข้อถกเถียงในการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จากแอสตราเซเนกา โดยบางรัฐแนะนำให้ผู้ใหญ่ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี หลีกเลี่ยงการรับวัคซีนนี้ไปก่อน ทั้งๆ ที่รัฐบาลกลางให้ใช้วัคซีนตัวนี้กับผู้ใหญ่ได้ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ส่งผลให้การกระจายวัคซีนล่าช้าลง ท่ามกลางการระบาดของสายพันธุ์เดลตา โดยชาวออสเตรเลียมีวัคซีนให้ประชาชนเลือกอยู่ 2 ยี่ห้อ ได้แก่ ไฟเซอร์ และแอสตราเซเนกา ซึ่งดูแนวโน้มคนหนุ่มสาวจะเลือกรับวัคซีนจากแอสตราเซเนกามากกว่า ขณะที่ล่าสุดนครซิดนีย์มีการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 2 แห่ง คือทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์ และและอิลลาวาร์รา ซึ่งก็มีประชาชนตื่นตัวไปต่อแถวเพื่อรอรับวัคซีนกันจำนวนมาก

...

ขณะนี้เมืองในออสเตรเลีย ที่มีการประกาศล็อกดาวน์ไปแล้ว ได้แก่ ซิดนีย์ เพิร์ท บริสเบน และดาร์วิน หลังจากพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตาอย่างรวดเร็ว และล่าสุด เมืองอลิส สปริง เส้นทางไปสู่อุทยานแห่งชาติอูลูรู มรดกโลกขององค์การยูเนสโก ก็ต้องประกาศล็อกดาวน์เพิ่ม หลังมีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อไปพักรอต่อเครื่องที่สนามบินนานหลายชั่วโมง.