- "บริตนีย์ สเปียร์ส" วัย 39 ปี และทรัพย์สินของเธอกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,860 ล้านบาท อยู่ภายใต้การดูแลของ นายเจมี่ สเปียร์ส วัย 68 ปี พ่อของเธอ ที่ทำหน้าที่เป็น "ผู้พิทักษ์" ตามคำสั่งศาลมาตั้งแต่ปี 2551 หรือ เป็นเวลา 13 ปีมาแล้ว หลังจากเธอเจอมรสุมชีวิตครั้งใหญ่จนต้องได้รับการฟื้นฟูตัวเองจากปัญหาทางจิต
- ปัจจุบัน บริตนีย์ คบหากับ นายแซม แอสการี วัย 27 ปี เขาเป็นนักแสดง ซึ่งทั้งคู่ได้พบกันขณะที่เขามาแสดงมิวสิกวิดีโอในเพลง Slumber Party ของบริตนีย์ สเปียร์ส
- บริตนีย์ สเปียร์ส ให้การต่อศาลสูงในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 23 มิ.ย. เปิดเผยหลายเรื่องที่ไม่มีใครรู้มาก่อน เพื่อเรียกร้องให้ผู้พิพากษามีคำสั่งให้เธอได้รับอิสระจากการต้องอยู่ภายใต้การพิทักษ์ดูแล
เป็นครั้งแรกที่โลกได้รับรู้ถึงความในใจของ "บริตนีย์ สเปียร์ส" เรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่เคยเปิดเผยที่ไหน เมื่อเธอได้ให้การต่อศาลสูงในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ อย่างสะเทือนใจ เป็นการให้การครั้งแรกในรอบหลายปี เพื่อเรียกร้องให้ผู้พิพากษามีคำสั่งให้เธอได้รับอิสระจากการต้องอยู่ภายใต้การพิทักษ์ดูแล (conservatorship) จาก นายเจมี สเปียร์ส ผู้เป็นพ่อ ที่ได้ครอบครองชีวิตของเธอ และทรัพย์สินของเธอ นับ 60 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,860 ล้านบาท มานานนับ 13 ปีแล้ว
...
คำเปิดเผยต่อศาล
บริตนีย์ สเปียร์ บอกว่าคำสั่งของศาลที่ให้พ่อทำหน้าที่พิทักษ์ชีวิตเธอ ทำให้เธอมีชีวิตราวกับทาส ทุกวันนี้เธอต้องใส่ห่วงคุมกำเนิดเพื่อป้องกันไม่ให้มีลูก เธอบอกว่าต้องการไปพบแพทย์ เพื่อเอาห่วงคุมกำเนิดออก เพื่อที่เธอจะสามารถแต่งงานและมีลูกได้
ที่ผ่านมาแฟนๆ ต่างสงสัยและพยายามหาคำตอบว่า บริตนีย์โอเคจริงหรือไม่ แต่ในช่วงเวลา 25 นาทีที่เธอเปิดเผยต่อศาล ความจริงก็กระจ่างชัดว่า เธอต้องการเรียกร้องชีวิตของตัวเองคืนมา เธอถูกบังคับให้กินยาลิเทียม ซึ่งใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคอารมณ์แปรปรวน เพื่อบรรเทาความปรารถนาต่างๆ ของเธอ
บริตนีย์บอกว่า รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวแล้วถูกรุมรังแกและเหน็ดเหนื่อยกับการต้องอยู่เพียงลำพัง เธอบอกว่าเธอเองไม่ต่างจากหญิงสาวในซ่องโสเภณีที่ถูกขังไว้โดยไม่มีเงินและไม่มีหนังสือเดินทาง จะตัดสินใจทำอะไรเองไม่ได้เลย
ก่อนหน้านี้ บริตนีย์ สเปียร์ส ได้ให้การต่อศาลโดยตรงครั้งสุดท้ายเมื่อพฤษภาคม 2562 แต่ศาลไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกร่วมรับฟังคำให้การในศาล และไม่อนุญาตให้เปิดเผยคำให้การของเธอต่อสาธารณชน ขณะที่รายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของเธอก็ไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน
ทำไมบริตนีย์ต้องมีพ่อเป็นผู้พิทักษ์
เรียกได้ว่าจนถึงตอนนี้บริตนีย์อยู่ภายใต้การพิทักษ์ของพ่อมากว่า 1 ใน 3 ของชีวิตเธอแล้ว โดยจุดเริ่มต้นต้องย้อนเรื่องราวกลับไปในปี 2550 เมื่อครั้งที่บริตนีย์สเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อป เธอโด่งดังสุดๆ จากเพลงฮิตอย่าง "Baby One More Time" และอีกหลายเพลงจากอัลบั้มก่อนหน้านั้น แทนที่จะมีความสุขแต่ชีวิตของเธอกลับเจอมรสุม แพ้คดีหย่าร้างกับสามี นายเควิน เฟเดอร์ไลน์ จนทำให้เธอต้องจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตรและสามีเป็นจำนวนมหาศาล และเธอต้องเสียสิทธิเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองคนให้อดีตสามี
ต่อมาบริตนีย์เริ่มแสดงพฤติกรรมเสียศูนย์ที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วงอย่างมาก ตั้งแต่โกนหัวตัวเอง หรือมีเรื่องวิวาทกับเหล่าปาปารัสซี สุดท้ายเธอต้องเข้ารับการบำบัดปัญหาสุขภาพจิตในโรงพยาบาล
...
ตอนนั้นเองที่ นายเจมี ผู้เป็นพ่อได้เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของบริตนีย์ สเปียร์ส ตั้งแต่ปี 2551 ในตอนนั้นศาลมีคำสั่งให้นายเจมีพิทักษ์ดูแลชีวิตของลูกสาวคนนี้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
แต่หลังจากที่ นายเจมี เข้ามาดูแลบริตนีย์ สเปียร์สแล้ว กลับมีข่าวลือสะพัดว่าเขาเข้มงวดกวดขันควบคุมชีวิตของบริตนีย์ สเปียร์ส อย่างหนัก และบริตนีย์รู้สึกว่าเธอได้ตกเป็นทาสให้ทำงานจากทีมผู้จัดการและพ่อของตัวเอง
นายเจมี วัย 68 ปี ได้รับเงิน 16,000 ต่อเดือน เป็นค่าดูแลการเงินของลูกสาวและยืนยันกับศาลว่าเขารักบริตนีย์มาก ทุกอย่างที่ทำไปก็เพราะรัก ขณะที่ บริตนีย์ สเปียร์ส ไม่ได้พูดคุยกับนายเจมี ผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2563 และเธอได้ต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อเรียกร้องให้ศาลยกเลิกคำสั่งให้พ่อพิทักษ์ชีวิตเธอที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2553
กำลังใจและกระแสรณรงค์จากแฟนเพลง
นับตั้งแต่ศาลตัดสินว่าเธอจะต้องตกอยู่ในการดูแลของพ่อ บรรดาแฟนเพลงกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยก็ได้สร้างแคมเปญ #FreeBritney เพื่อสนับสนุนเธอและหวังว่าจะเป็นกระบอกเสียงที่ช่วยปลดปล่อยเธอจากโซ่ตรวนที่พ่อล่ามเธอเอาไว้
...
ในวันที่บริตนีย์ ส่งสัญญาณวิดีโอลิงก์มาที่ศาลในลอสแอนเจลิส ก็มีแฟนๆ จำนวนมากไปรวมตัวกันที่หน้าศาล ชูป้ายที่มีข้อความว่า "Free Britney" และ "We Love You Britney"
ขณะที่เหล่าคนดังในวงการบันเทิงก็ออกมาสนับสนุนให้กำลังใจบริตนีย์อย่างล้นหลาม แม้กระทั่ง จัสติน ทิมเบอร์เลค อดีตแฟนหนุ่มที่เคยมีปัญหากันมายาวนานก็ออกมากล่าวว่า สิ่งที่เห็นในวันนี้ทำให้เขาคิดว่าตอนนี้เราทุกคนควรที่จะสนับสนุนบริตนีย์ ไม่ว่าอดีตมันจะดีหรือร้าย หรือไม่ว่ามันจะผ่านมานานแค่ไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันไม่ถูกต้อง ไม่ควรจะมีผู้หญิงคนไหนที่ควรจะโดนจำกัดจากการตัดสินใจเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง
แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีหลายเรื่องที่เราไม่รู้เกี่ยวกับ บริตนีย์ สเปียร์ส และสื่อต่างๆ เคยนำเสนอว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายสติแตก ที่อารมณ์แปรปรวนเป็นอันตราย แต่ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดจากถ้อยคำที่เธอพูดออกมาเองว่าไม่มีความสุขกับสถานภาพของตัวเองภายใต้การดูแลของผู้พิทักษ์ และสำหรับแฟนเพลงที่ติดตามผลงานของเธอก็คงต้องรอกันต่อไป เพราะเธอเคยบอกว่า จะยังไม่กลับมาขึ้นเวทีในเร็วๆ นี้ และจะไม่ขึ้นเวทีแสดงจนกว่าจะหลุดพ้นจากปัญหาคาราคาซังนี้ไปได้.
...
ผู้เขียน เพ็ญโสภา สุคนธรักษ์