รัฐบาลฟิลิปปินส์ลงนามข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ จำนวน 40 ล้านโดส เพื่อยกระดับการสร้างภูมิคุ้มกันในประเทศ
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า พลเอกคารลิโต กัลเวซ หัวหน้าทีมเฉพาะกิจแห่งชาติรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ประกาศในวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. 2564 ว่า รัฐบาลได้ลงนามข้อตกลงจัดหาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาซึ่งผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค จำนวน 40 ล้านโดสแล้ว
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นข้อตกลงจัดหาวัคซีนต้านโควิดลอตใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์จนถึงตอนนี้ โดยนายพลกัลเวซ เผยว่า การส่งมอบวัคซีนจะเริ่มขึ้นในอีก 8 สัปดาห์ให้หลัง หรือราวเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ฟิลิปปินส์เพิ่งเริ่มโครงการฉีดวัคซีนแก่ผู้ที่ต้องทำงานนอกบ้านจำนวน 35 ล้านคน และเดินหน้าการฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุ โดยตั้งเป้าหมายจะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 70 ล้านคนในปีนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
แต่จนถึงปัจจุบันฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนไปแล้วเพียง 8 ล้านโดส โดยมีผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ราว 6 ล้านคน สะท้อนให้เห็นความล่าช้าในการฉีดวัคซีน ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า รัฐบาลจะสามารถทำตามเป้าหมายการฉีดวัคซีนได้หรือไม่ ขณะที่หลายจังหวัดยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงจัดหาวัคซีนล่าสุด จะทำให้ฟิลิปปินส์มีวัคซีนถูกส่งเข้ามาในประเทศถึง 113 ล้านโดส จากผู้ผลิต 5 ราย ซึ่งรวมถึง ซิโนแวค จำนวน 26 ล้านโดส, สปุตนิก วี 10 ล้านโดส, โมเดอร์นา 20 ล้านโดส และ แอสตราเซเนกาอีก 17 ล้านโดส
...
นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังจะได้วัคซีนจากโครงการโคแวกซ์เพิ่มอีก 44 ล้านโดส และรัฐบาลกำลังเจรจากับบริษัท โนวาแวกซ์กับจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 16 ล้านโดสด้วย
นายพลกัลเวซ กล่าวว่า ข้อตกลงใหม่นี้จะยกระดับโครงการฉีดวัคซีนของชาติขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะทำให้ฟิลิปปินส์สามารถบรรลุเป้าหมายในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในสิ้นปีนี้ได้.