- เมืองโกยาง เมืองบริวารขนาดใหญ่ของกรุงโซล เกาหลีใต้ ที่มีประชากรราว 1 ล้านคน กลายเป็นเมืองสวรรค์ของทาสแมว หลังเปลี่ยนมาใช้แมวเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เพราะคำว่า แมว หรือโกยางยี พ้องเสียงกับชื่อเมือง
- เดิมทีชาวเกาหลีใต้มองแมวเป็นสัตว์ที่แทนสัญลักษณ์ของปิศาจ หัวขโมย และนำมาซึ่งความโชคร้าย แต่ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนภาพจำมาเป็นสัญลักษณ์ของคนโสด คนที่มีความปัจเจก และดูแลตัวเองได้ดี
- ความนิยมในตัวแมวที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจต่างๆเกี่ยวกับแมวเติบโตขึ้น แม้แต่งานจัดแสดงสินค้างานแต่งงาน หรืองานแสดงสินค้าเด็กอ่อน ยังถูกแทนที่ด้วยงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
ที่มาที่ไป
เมืองโกยาง เมืองบริวารขนาดใหญ่ของกรุงโซล เกาหลีใต้ ที่มีประชากรราว 1 ล้านคน มีชื่อเสียงในเรื่องของเทศกาลดอกไม้นานาชาติประจำปีมาอย่างยาวนาน ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นของเมืองโกยางก็มีการเปิดโซเชียลมีเดียหลายช่องทาง แต่กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก เมืองโกยางจึงต้องมองหาจุดขายใหม่ๆ ที่แตกต่างจากที่อื่นๆ เพื่อมาดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น วันหนึ่งในปี 2013 ที่ประชุมของเทศบาลเมืองโกยาง ก็มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเสนอในที่ประชุมขึ้นมาแบบขำๆ ว่า หรือเราควรจะให้แมวมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ เพราะชื่อเมืองโกยาง(goyang) ในภาษาเกาหลีมีความคล้ายกับคำว่าแมว หรือ โกยางยี (goyang-yi)
จากเรื่องขำๆ สู่ความเป็นจริง
ในเกาหลีใต้ แมวเคยถูกตีตราว่าเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์ เป็นปิศาจ หรือขี้ขโมย ที่จะนำโชคร้ายมาให้ แต่ ชอย หนึ่งในทีมงานที่อายุน้อยที่สุด กลับเสนอไอเดียนี้ขึ้นมาเพราะอยากจะให้โอกาสกับแมวบ้าง ในเวลานั้นเฟซบุ๊กของเมืองโกยาง มีผู้ติดตามอยู่ราว 2,000 คน แต่หลังจากมีการเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นรูปแมว กระแสในโลกโซเชียลก็กระเพื่อมอย่างแรง มาสคอตแมวตัวนี้กลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมากทั้งในกลุ่มคนในโกยาง รวมทั้งเมืองอื่นๆ
...
ทุกวันนี้ ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวมถึงเฟซบุ๊กของเมืองโกยางเอง มีผู้ติดตามมากถึงกว่าครึ่งล้าน และภาพของเจ้าแมว โกยาง โกยาง-ยี ก็ปรากฏในทุกที่ รวมทั้งในโถงของศาลากลาง ใครที่เดินทางเข้าเมืองโกยางจะได้เจอกับโปสเตอร์ภาพแมวต้อนรับนักท่องเที่ยว และยังมีรูปปั้นแมวสวมแมสก์ เพื่อย้ำเตือนให้ทุกคนสวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการจัดโซนถ่ายภาพให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการถ่ายรูปคู่กับเจ้าแมวโกยาง-โกยางยี ด้วย
พลังแห่งแมว
ต้องยอมรับว่ากระแสของแมวมีอิทธิพลไปทั่วทั้งเอเชีย และพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก และเกาหลีใต้ก็ไม่มีข้อยกเว้น โดยเจ้าฮีก (HEEK) อดีตแมวอ้วนสีขาวเร่ร่อนที่อยู่บนเกาะเชจู ก็มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 190,000 คน หลังจากมันกลายเป็นที่รู้จัก และได้ ลี ไซนา เจ้าของผู้ใจบุญรับดูแลมัน โดยเจ้าฮีกไม่ต้องทำอะไรมากมายที่จะดึงความสนใจจากแฟนคลับทาสแมว เพราะแค่ภาพที่มันนอนบนโต๊ะ เดินไปเดินมา ก็มีคนมากดไลค์ชื่นชอบเป็นพันๆ คนแล้ว นอกจากนี้ ลี เจ้าของของมันยังมีการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับเจ้าฮีกเมื่อปี 2017 โดยหนังสือเล่มนี้ยังติด top 100 ของหนังสือจากทั่วโลกนานถึง 2 สัปดาห์ ในร้านหนังสือชั้นนำของเกาหลีใต้เลยทีเดียว
ปัจจุบันแมวได้กลายเป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนโสดในเกาหลีใต้นิยมเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น เพราะแมวเป็นสัตว์ที่สามารถดูแลตัวเองได้ดี และต้องการการเอาใจใส่ดูแลน้อยกว่าสุนัข บางคนถึงกับกล่าวว่า การได้ดูวิดีโอแมวก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้รับการบำบัดทางอารมณ์
ปาร์ค จุง ยุน สัตวแพทย์ชื่อดังของเกาหลีใต้ เชื่อว่า ความนิยมในตัวแมวที่เพิ่มมากขึ้น สัมพันธ์กับความเปลี่ยนแปลงในสังคมเกาหลี โดยในยุคก่อน ชาวเกาหลีจะชื่นชอบการเลี้ยงสุนัข เพราะพวกมันมีความซื่อสัตย์ และเชื่อฟังคำสั่ง ซึ่งคล้ายคลึงกับสิ่งที่สังคมเกาหลีคาดหวังจากสมาชิกในสังคมเช่นกัน แต่ปัจจุบันชาวเกาหลีใต้มีความเป็นปัจเจก และแมวก็มีความเป็นปัจเจกสูง ทำให้มันมีภาพลักษณ์ที่ดึงดูดผู้คนมากขึ้น
โดยการสำรวจของรัฐบาลกรุงโซลในปี 2019 พบว่า แมวมักจะเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนโสดมากกว่า ขณะที่ผลสำรวจอีกชิ้นที่มีการเผยแพร่ในเดือนที่แล้ว พบว่า มีประชากรคนโสดในเกาหลีใต้ถึงมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนทั้งประเทศ ซึ่งผลจากความนิยมในการเลี้ยงแมวของกลุ่มคนโสด ยังส่งผลไปถึงสายงานออกแบบบ้านเป็นพิเศษสำหรับคนเลี้ยงแมวด้วย โดยบริษัท เพ็ท เฮ็ม บริษัทผู้พัฒนาต่อเติมบ้าน มีการนำเสนอวิดีโอโปรโมตบริการพิเศษ เช่น การออกแบบประตูสำหรับแมว หอคอยแมว หรือแม้แต่อ่างอาบน้ำแมวเพื่อดึงดูดคนเลี้ยงแมวให้มาใช้บริการ นอกจากนี้ภาพรวมการจัดงานเอ็กซ์โปต่างๆ เริ่มเบนเข็มจากการจัด งานเวดดิ้ง เอ็กซ์โป หรือเบเบี้เอ็กซ์โป มาเป็นงาน เพ็ท เอ็กซ์โปมากขึ้น เนื่องจากอัตราการแต่งงานที่ต่ำลง และอัตราการเกิดที่ลดต่ำลงที่สุดในโลกของเกาหลีใต้ ในปี 2020 ที่ผ่านมา ขณะที่แมวกลับยกฐานะขึ้นเป็นเหมือนกับดารา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับแมวเข้ามาสู่ยุคเฟื่องฟู
...
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ใช่ทุกคนที่จะกลายมาเป็นทาสแมว เพราะเกาหลีใต้ยังพบปัญหาแมวเร่ร่อน และแมวถูกทิ้งอีกจำนวนมาก จนศูนย์ดูแลสัตว์จรจัดมีจำนวนไม่เพียงพอ และไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง จึงได้แต่หวังว่ากระแสของคนรักแมวที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จะไม่จางหายไป จนทำให้ปัญหาแมวถูกทอดทิ้งยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิม.
ผู้เขียน : อาจุมม่าโอปอล
ที่มา : ซีเอ็นเอ็น , โกยางดอทจีโอ