เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน รัฐสภาเดนมาร์กลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 82-12 เสียง ให้เดินหน้าก่อสร้างโครงการ “ลิเนตต์โฮล์ม” ซึ่งเป็น “เกาะเทียม” ขนาดยักษ์ บนเนื้อที่ 2.8 ตารางกิโลเมตร บริเวณตอนเหนือของโคเปนเฮเกน ด้วยมูลค่าการก่อสร้าง 20,000 ล้านโครนเดนมาร์ก หรือราว 101,842 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในปี พ.ศ.2578 โดยมีเป้าหมายให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2673
แผนการก่อสร้างลิเนตต์โฮล์ม หนึ่งในโครงการก่อสร้างชุมชนเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศถูกประกาศครั้งแรกในปี พ.ศ.2561 โดยลาร์ส เลิกเกอ รัสมุสเซิน อดีตนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก และแฟรงค์ เจนเซน นายกเทศมนตรีกรุงโคเปนเฮเกนในขณะนั้น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการป้องกันชายฝั่งที่ช่วยปกป้องโคเปนเฮเกนจากคลื่นพายุซัดฝั่ง น้ำท่วม และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะโลกร้อน ยังช่วยบรรเทาวิกฤติที่อยู่อาศัยที่ไม่เพียงพออันเป็นปัญหาเรื้อรังในเมืองหลวง โดยจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนเกินกว่า 35,000 คน หลังจากเคยมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะมีประชากรเพิ่มอีกราว 170,000 คน ภายใน 24 ปีข้างหน้า ชุมชนใหม่แห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดใหม่ๆ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของเมืองในอนาคตอีกด้วย
แม้เดนมาร์กจะมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรม นวัตกรรมและการวางผังเมืองที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังต้องเผชิญคำวิจารณ์และเสียงคัดค้านหนาหูว่าไม่ได้ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากพอ ซึ่งอาจก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง การสร้างเกาะเทียมขนาดสนามฟุตบอล 400 สนาม จะต้องใช้ดินมากถึง 80 ล้านตัน จึงมีความกังวลถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศและคุณภาพน้ำในระยะยาว สวีเดนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ออกมาคัดค้านโดยระบุว่ามีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในบริเวณช่องแคบเออร์ซุนด์
...
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยเฉพาะการท่องเที่ยว นอกจากจะเปลี่ยนโฉมทั้งชายฝั่งของโคเปนเฮเกนแล้วยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ของเมืองอีกด้วย.
อมรดา พงศ์อุทัย