ศาลสูงอินเดีย ทักท้วงนโยบายกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ของ รบ.นายกฯโมดี ทำไมต้องจองฉีดวัคซีนผ่านแอปฯ ทั้งที่ชาวบ้านในชนบทยังไม่มีอินเทอร์เน็ต เข้าถึงพื้นที่
เมื่อ 3 มิ.ย.64 สำนักข่าวบีบีซีรายงาน ผู้พิพากษาศาลสูงอินเดียวิจารณ์รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี อย่างรุนแรง เกี่ยวกับโครงการจัดสรรวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชน โดยขอให้รัฐบาลช่วยอธิบายชี้แจงว่าทำไมจึงต้องให้ประชาชนลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น ซึ่งทำให้ประชาชนในชนบทไม่สามารถจองการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึงพื้นที่
รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโมดีได้เปิดให้ประชาชนราว 960 ล้านคน ลงทะเบียนจองการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งที่ยังไม่รู้จะจัดหาวัคซีนให้ได้ขนาดนี้จากที่ไหน โดยนับตั้งแต่ทางการอินเดียเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนเมื่อกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ขณะนี้มีประชาชนได้รับวัคซีนทั้งสองเข็มแค่เพียง 3% ของจำนวนประชากรในประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขาดแคลนวัคซีนต้านโควิด-19 ได้เกิดขึ้น หลังจากเกิดการระบาดของโควิดระลอกที่สองอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียวทำสถิติสูงสุดกว่า 400,000 ราย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลงจนพบผู้ติดเชื้อในช่วง 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 132,788 รายต่อวัน
ขณะที่ ศาลสูงอินเดียชี้ถึงมาตรการของรัฐบาลที่ขอให้ประชาชนอายุระหว่าง 18-44 ปี จ่ายเงินค่าฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เองว่า เป็นการกระทำโดยพลการและไม่มีเหตุผล โดยศาลสูงอินเดียยังให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโมดีทบทวนนโยบายการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชน และขอให้ทำโรดแม็ปในการจัดหาวัคซีน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 64
ปัจจุบัน ทางการอินเดียได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด 2 ชนิดที่ผลิตในประเทศ ให้แก่ประชาชน คือ วัคซีนโควิชิลด์ (Covishield) และโคแวกซีน (Covaxin) โดยวัคซีนโควิชิลด์นั้น ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มของอินเดียซึ่งได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตวัคซีนโควิชิลด์จากบริษัทแอสตราเซเนกา ในขณะที่บริษัทภารัต ไบโอเทค ในอินเดีย พัฒนาวัคซีนโคแวกซิน นอกจากนั้น สำนักงานกำกับดูแลยาในอินเดียได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) ที่ผลิตในรัสเซีย ในกรณีฉุกเฉินแล้วเมื่อเดือน เม.ย.
ทั้งนี้ อินเดียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เมื่อ 2 มิถุนายน 64 อยู่ที่ 134,105 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 2,899 ศพ ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 26.7 ล้านราย และเสียชีวิตเกิน 3.38 แสนศพแล้ว