รัฐบาลอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ไม่อนุญาตให้ชาวอินโดฯ เดินทางไปแสวงบุญพิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะของซาอุดีอาระเบียเป็นปีที่ 2 เพื่อความปลอดภัย ขณะโควิด-19 ยังระบาดทั่วโลก
เมื่อ 3 มิ.ย.64 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน กระทรวงกิจการศาสนาของอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ ทางการอินโดนีเซียไม่อนุญาตให้ประชาชนในอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นปีที่สองติดต่อกัน เพื่อความปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายยาคุต ชอลิล คูมาส รมว.กระทรวงกิจการศาสนาของอินโดนีเซีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียได้ตัดสินใจที่จะไม่อนุญาตให้ชาวอินโดนีเซียเดินทางไปแสวงบุญพิธีฮัจญ์อีกปีหนึ่ง ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกัน ในขณะที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ก็ไม่เปิดประเทศ อนุญาตให้ชาวมุสลิมจากหลายประเทศทั่วโลกเดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ ระหว่างวันที่ 17-22 กรกฎาคม 2564
ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ยกเลิกคำสั่งห้ามผู้เดินทางจาก 11 ประเทศเข้ามาในซาอุดีอาระเบียแล้ว แต่จะต้องถูกกักตัวในสถานกักกันตัวตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ตามรายงานของทางการซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด มีชาวมุสลิมทั่วโลกราว 2.5 ล้านคนเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลามในนครเมกกะ และเมดินา ในช่วงพิธีฮัจญ์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ สร้างรายได้เข้าประเทศซาอุดีอาระเบียถึงประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์.