อียูคว่ำบาตรเบลารุส หลังส่งบินรบประกบบินโดยสารสุดอุกอาจ จับนักข่าว

สหภาพยุโรป ลงดาบ สั่งห้ามสายการบินเบลารุส บินผ่านน่านฟ้า หลังทางการเบลารุสปฏิบัติการสุดอุกอาจจับนักข่าว ส่งเครื่องบินขับไล่บินขึ้นประกบเครื่องบินโดยสารให้เปลี่ยนเส้นทางมาลงจอดที่กรุงมินสก์

เมื่อ 25 พ.ค.64 สำนักข่าวบีบีซีรายงาน ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) 27 ประเทศ ประชุมหารือ ลงมติสั่งห้ามเครื่องบินโดยสารของสายการบินเบลารุส แอร์ไลน์ ในเบลารุส บินผ่านน่านฟ้าของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ขณะที่สายการบินของประเทศในกลุ่มอียูก็จะไม่บินผ่านน่านฟ้าเบลารุสเช่นกัน รวมทั้งยังจะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อเบลารุสอีก

มาตรการตอบโต้ของอียูต่อเบลารุส มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์สุดอุกอาจ ทางการเบลารุสวางแผนอย่างแยบยล ส่งเครื่องบินขับไล่บินประกบเครื่องบินโดยสารของสายการบินไรอันแอร์ เที่ยวบินจากกรีซไปยังลิทัวเนีย เพื่อบังคับให้เครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยอ้างว่ามีการขู่วางระเบิดเครื่องบินลำนี้

ทว่าความจริงได้ประจักษ์ในเวลาต่อมาว่า ปฏิบัติการเหนือเมฆของทางการเบลารุสนั้น แท้จริงแล้ว เพื่อต้องการจับกุมนายโรมัน โปรตาเซวิช นักข่าวหนุ่มต่อต้านรัฐบาล ชาวเบลารุส วัย 26 ปี ที่เดินทางมากับเที่ยวบินนี้พร้อมกับแฟนสาว

หลังจากเครื่องบินลำนี้ลงจอดที่ท่าอากาศยานในกรุงมินสก์แล้ว วันรุ่งขึ้น ทางการเบลารุสได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ บันทึกภาพนายโปรตาเซวิช ซึ่งยังคงดูสุขภาพแข็งแรงดี และกำลังดูเหมือนให้การรับสารภาพต่อคดีอาญาที่เขาถูกทางการเบลารุสตั้งข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม บรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมืองและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านใหญ่ในเบลารุส วิจารณ์ทันทีว่าคลิปวิดีโอนี้ นายโปรตาเซวิชถูกบังคับให้ยอมรับสารภาพผิด

ด้านประเทศตะวันตกพากันประณามรัฐบาลเบลารุสอย่างรุนแรง กล่าวหาลงมือปฏิบัติการจี้เครื่องบินไรอันแอร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ กล่าวถึงปฏิบัติการครั้งนี้ของทางการเบลารุสว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจ และเป็นการโจมตีที่น่าละอายทั้งต่อการเมืองฝ่ายตรงข้าม และเสรีภาพของนักข่าว

ทั้งนี้ ทางการเบลารุสได้ส่งเครื่องบินขับไล่บินขึ้นประกบเครื่องบินโดยสารของสายการบินไรอันแอร์ เที่ยวบิน FR4978 จากกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงกรีซ ไปยังกรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนีย ซึ่งมีผู้โดยสาร 126 คน อ้างว่าเครื่องบินลำนี้ถูกขู่วางระเบิด และเครื่องบินได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานในกรุงมินสก์ เมื่อเวลา 13.16 น. ของวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น

จากนั้น ตำรวจเบลารุสได้มาควบคุมตัวนายโปรตาเซวิชไปจากเครื่องบิน ซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์เผยว่านายโปรตาเซวิชดูหวาดกลัวมาก ขณะเขาถูกตำรวจจับกุมตัวไปพร้อมกับแฟนสาวของเขา โซเฟีย ซาปีกา เพื่อนำตัวไปเข้าห้องขัง