เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลอังกฤษออกโครงการที่เกษตรกรสูงวัยชาวอังกฤษอาจได้รับเงินสูงถึง 100,000 ปอนด์ หรือราว 4.4 ล้านบาท เป็นทุนในการเกษียณ เพื่อเปิดโอกาสให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความกระตือรือร้น และให้ความสำคัญต่อการเกษตรยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้สามารถเข้าถึงที่ดิน

นายจอร์จ ยูสติซ รมว.สิ่งแวดล้อมของอังกฤษ เผยว่า รัฐบาลสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงในภาคการเกษตร โดยระบุว่า “มุมมองใหม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ คนรุ่นใหม่จะเข้ามาเป็นแรงสำคัญของอุตสาหกรรมทุกประเภทไม่เว้นกระทั่งภาคเกษตร” ดังนั้นเงินเกษียณก้อนนี้จึงอาจเป็นเงินทุนสำคัญให้กับเกษตรกรรุ่นใหญ่ที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน ย้ายภาคธุรกิจไปทำอย่างอื่น หรือเพื่อใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายอย่างมีความสุขสบายใจไร้หนี้สิน

เกษตรกรที่มีอายุมากแล้วอาจจะลังเลที่จะใช้วิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย นอกจากนี้รัฐบาลยังเชื่อว่าเกษตรกรหนุ่มสาวรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนจากแนวทางปฏิบัติแบบเดิมๆ ด้วยมุมมองแนวคิดที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะสามารถต่อยอดพัฒนาเพิ่มมูลค่าธุรกิจให้ไปได้ไกลมากกว่าสินค้าเกษตรกรรม อย่างเช่นธุรกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเปลี่ยนทุ่งนาให้เป็น “แกลมปิ้ง” หรือสถานที่ตั้งแคมป์แบบหรูหรา ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันงดงามไม่ต่างจากการพักในโรงแรม ตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคดิจิทัล

ในอังกฤษมีเกษตรกรที่มีอายุเกิน 65 ปี อยู่เกือบ 40% ของเกษตรกรทั่วประเทศ โดยมีอายุเฉลี่ยที่ 59 ปี และจากการสำรวจเกษตรกรจำนวน 360 คน พบว่า 75% สนใจโครงการเกษียณอายุอย่างจริงจัง ซึ่งรัฐบาลอังกฤษยังระบุด้วยว่าการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ทำให้เกษตรกรชาวอังกฤษได้รับเงินสูงกว่าเมื่อเทียบกับเมื่อครั้งอยู่ในกฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรป ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยเฉลี่ยเพียง 21,000 ปอนด์ หรือประมาณ 931,000 บาทเท่านั้น

...

นอกจากนี้ยังจะมีการจัดสรรเงินสนับสนุนในสินค้าสาธารณะ อย่างเช่นการปกป้องแหล่งน้ำ การดักจับคาร์บอนในดินและต้นไม้ รวมทั้งการเพิ่มจำนวนของสัตว์ป่า ซึ่งเชื่อว่าเกษตรกรหนุ่มสาวจะยินดียอมรับความคิดใหม่ๆที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น.

อมรดา พงศ์อุทัย