รัฐบาลสโลวาเกีย ประกาศระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 "แอสตราเซเนกา"ให้กับประชาชนที่จะฉีดเข็มแรกแล้ว หลังผลสอบสวนพบความเป็นไปได้ที่อาจเชื่อมโยงการเสียชีวิตของหญิงวัย 47 ปี กับการฉีดวัคซีนตัวนี้
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เว็บไซต์ข่าว Euronews รายงานว่า รัฐบาลสโลวาเกียประกาศระงับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 "แอสตราเซเนกา" ให้กับประชาชนที่จะมารับการฉีดวัคซีนเป็นโดสแรกแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ประชาชนที่กำลังรอรับวัคซีนเข็มแรกจะได้รับการพิจารณาไปใช้ของบริษัทอื่นแทน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ ให้กับประชาชน และจะมีการเปิดเผยรายละเอียดภายในสัปดาห์นี้ แต่ในส่วนของคนที่รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เป็นโดสแรกไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็จะได้รับการฉีดกระตุ้นโดสที่ 2 ด้วยวัคซีนของแอสตราเซเนกาต่อไป
ซูซานา เอเลียโซวา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขสโลวาเกีย เปิดเผยว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังการรับฟังความคิดเห็นจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ภายหลังจากองค์การเภสัชกรรมสโลวาเกีย ตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีความเป็นไปได้ที่การเสียชีวิตของหญิงวัย 47 ปีที่มีอาการลิ่มเลือดอุดตัน มีความเชื่อมโยงกับวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ได้รับไป
โดยระบุว่า ผลการชันสูตรศพพบว่าผู้หญิงวัย 47 ปีรายนี้ มีภาวะภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน (cerebral venous sinus thrombosis) โดยพบว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเชื่อมโยงกับวัคซีนที่ได้รับ เนื่องจากเธอมีความบกพร่องทางพันธุกรรมมีแนวโน้มเกิดภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ที่ผ่านมา หลายประเทศในยุโรปพบกรณีคนที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้วเกิดอาการข้างเคียงภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ส่งผลให้มีการระงับใช้ หรือปรับกลุ่มอายุผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนตัวนี้ อย่างไรก็ตามองค์การเภสัชกรรมยุโรป ระบุว่า อาการข้างเคียงเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และเกล็ดเลือดต่ำ เป็นอาการข้างเคียงหายากมากพบในคนที่รับวัคซีน ของออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา ซึ่งโดยรวมแล้วประสิทธิภาพการป้องกันยังมีมากกว่าความเสี่ยง.
...