กองทัพเรืออินโดนีเซียยืนยัน เรือดำน้ำที่หายสาบสูญไปจมลงก้นทะเลแล้ว ทำให้โอกาสรอดชีวิตของลูกเรือทั้ง 53 คน แทบไม่เหลือ

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า พลอากาศเอก ฮาดี จาฮยานโต ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย เปิดเผยในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. 2564 ว่า พบหลักฐานหลายข้อที่บ่งชี้ว่า เรือดำน้ำ ‘เคอาร์ไอ นังกาลา 402’ ซึ่งหายสาบสูญไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จมลงก้นทะเลแล้ว

พลอากาศเอกจาฮยานโต กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “กองทัพเรือพบคราบน้ำมันที่ลอยขึ้นมาบนผิวทะเล และชิ้นส่วนต่าง ซึ่งเป็นหลักฐานว่า เออาร์ไอ นังกาลา จมแล้ว”

ขณะที่พลเรือเอก ยูโด มาร์โกโน เสนาธิการกองทัพเรืออินโดนีเซีย เสริมว่า “ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เราพบเศษชิ้นส่วนและสิ่งของจากพิกัดสุดท้ายที่เรือดำน้ำลำนี้ดำลงใต้น้ำ” “ของที่พบเป็นสิ่งที่ไม่ควรออกมานอกเรือดำน้ำได้ ถ้าไม่มีแรงดันจากภายนอก หรือปราศจากความเสียหายที่แท่นปล่อยตอร์ปิโด”

...

นายพลมาร์โกโนยังให้ผู้สื่อข่าวดูสิ่งของที่เจ้าหน้าที่ค้นพบจนถึงตอนนี้ ซึ่งรวมถึง ชิ้นส่วนตอร์ปิโด, เศษพรมสวดมนต์ และจาระบี เขายังบอกด้วยว่า ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตในกลุ่มเจ้าหน้าที่ 53 คนบนเรือดำน้ำลำนี้นั้น เหลือน้อยเต็มทีแล้ว “ตอนนี้เราเปลี่ยนคำจาก ‘เรือดำน้ำที่หายไป’ เป็น ‘เรือดำน้ำที่จมลงทะเล’ แล้ว”

เสนาธิการกองทัพเรือระบุด้วยว่า เครื่องสแกนตรวจพบวัตถุที่อาจเป็นเรือดำน้ำลำนี้ที่ความลึก 850 เมตร แต่เรือออกแบบมาให้ดำน้ำได้ลึกเพียง 500 เมตรเท่านั้น “เรายังออกปฏิบัติการค้นหาอยู่ แต่เพราะมันอยู่ที่ความลึก 850 เมตร จึงเป็นเรื่องเสี่ยงและยากมากที่ ROV (ยานปฏิบัติการใต้น้ำควบคุมระยะไกล) จะกู้เรือขึ้นมาได้”

ทั้งนี้ เรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา 402 หายไปเมื่อวันพุธที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมลูกเรือ 53 คน ระหว่างการฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดในน่านน้ำทางเหนือของเกาะบาหลี โดยเรือขาดการติดต่อไปในเวลาประมาณ 04.30 น. หลังขออนุญาตดำสู่ใต้น้ำในเวลา 03.00 น.

กองทัพอินโดนีเซียคาดว่า เรือดำน้ำลำนี้อาจเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ ซึ่งจะทำให้เหลือออกซิเจนใช้จนถึงเวลา 03.00 น. ของวันเสาร์เท่านั้น แต่เจอปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ทำให้ไฟดับ พวกเขาจะมีออกซิเจนใช้นาน 5 วัน