- การตัดสินคดีดังที่นายตำรวจเมืองมินนิแอโปลิสใช้เข่ากดคอของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำ จนเสียชีวิต ในเดือนเมษายนนี้ มีการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมสามารถฟังการพิจารณาคดีไปพร้อมๆ กันได้
- การตัดสินคดี จอร์จ ฟลอยด์ ถูกนำไปเป็นบทเรียนให้เด็กเข้าใจถึงความแตกต่าง โดยเฉพาะในโรงเรียนที่เด็กส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว
- นอกจากทำความเข้าใจเรื่องสีผิว การตัดสินคดียังเป็นการเรียนรู้การแสดงความเห็นและทำความเข้าใจเรื่องยากๆ ของคนในครอบครัว
เหตุฆาตกรรม จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูก ดีเร็ค ชอวิน ตำรวจเมืองมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา ใช้เข่ากดบริเวณคอนานกว่า 9 นาที จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตระหว่างจับกุม เมื่อปี 2020 ไม่เพียงแต่กระตุ้นให้ชาวอเมริกันออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและการใช้ความรุนแรงของตำรวจเท่านั้น แต่การถ่ายทอดสดพิจารณาคดีโดยเปิดเผยต่อสาธารณะเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทำให้ครูหลายคนมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรื่องนี้กับนักเรียน นอกจากนี้สื่ออเมริกันต่างเผยแพร่คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและจิตวิทยาเพื่อให้พ่อแม่รับมือในการพูดคุยกับลูกด้วย
ที่เมืองมินนิแอโปลิส นักเรียนในโรงเรียนของรัฐกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่คนผิวขาว ครูหลายคนใช้การไต่สวนคดีนี้ เช่น คำให้การของฝ่ายต่างๆ เป็นโอกาสให้นักเรียนทำความเข้าใจความซับซ้อนเรื่องสีผิว นโยบายต่างๆ และระบบยุติธรรมอาญาของสหรัฐอเมริกา เปิดประเด็นให้นักเรียนตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ผู้บริหารโรงเรียนและนักจิตวิทยาที่ให้คำปรึกษาจัดเวลาให้นักเรียนพูดคุยว่า การไต่สวนคดีนี้ตอกย้ำความรู้สึกหรือบาดแผลทางจิตใจเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวอย่างไร
คริสติ วาร์ด (Kristi Ward) ครูใหญ่ของโรงเรียน เลค โนโคมิส คอมมิวนิตี (Lake Nokomis Community School) ให้สัมภาษณ์กับ New Tork Times ว่า หลายเดือนที่ผ่านมา มีบทสนทนาเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติในชุมชนอย่างไม่ขาดสาย เธอและครูในโรงเรียนจึงเห็นว่าเป็นโอกาสดีสำหรับการแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักเรียนที่ส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวได้ โดยเริ่มต้นให้นักเรียนติดตามการไต่สวนคดีนี้ และทำความเข้าใจข้อเท็จจริง จากนั้นมาคุยกันแทนที่จะหลีกเลี่ยงปัญหา
นอกจากเป็นบทเรียนเรื่องความหลากหลายสำหรับครูและนักเรียน เรื่องนี้ยังเป็นหัวข้อสนทนาในครอบครัวที่น่าสนใจ
เทีย คิม (Tia Kim) นักจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News เธอเห็นว่า ลูกชายวัย 13 ปีมีวุฒิภาวะมากพอ จึงอนุญาตให้ติดตามการพิจารณาคดีที่ถ่ายทอดสดได้ในช่วงปิดเทอม เพราะอยากคุยกับลูกชายว่าคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร และมองว่าเป็นโอกาสที่ดีของครอบครัวในการพูดคุยหัวข้อยากๆ ซึ่งนักจิตวิทยาแนะนำว่า พ่อแม่ควรช่วยลูกรับมือกับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการดูถ่ายทอดสดการพิจารณาคดี รับฟังอย่างตั้งใจ และไม่ตัดสินพวกเขา
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่หลายคนจากโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐเทกซัสไม่พอใจ หลังรู้ว่าครูสั่งให้นักเรียนติดตามการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดี และดูกราฟิกวิดีโอช่วงที่ จอร์จ ฟลอยด์ ถูกทำร้าย พวกเขาให้เหตุผลว่า การสั่งงานนี้ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง และครูยังสั่งไม่ให้นักเรียนคุยเรื่องนี้กับคนในครอบครัวด้วย ทั้งที่คลิปวิดีโอสะเทือนใจคนทั่วโลก แต่ครูก็ไม่มีมาตรการรับมือกับอารมณ์และความรู้สึกของนักเรียน จนครูคนดังกล่าวต้องยกเลิกคำสั่งนี้ในที่สุด
...
อ้างอิง:
nytimes.com
edweek.org
wfaa.com