• Operation Forth Bridge (ปฏิบัติการสะพานโฟร์ธ) แผนปฏิบัติงานในพิธีฝังพระศพเจ้าชายฟิลิป ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยด้วยดีท่ามกลางความเศร้าโศกอาลัย
  • ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สุดอาลัย ทรงเลือกการบอกความรักอำลาอาลัยเจ้าชายฟิลิป พระสวามีที่พระองค์ทรงรักและครองคู่เคียงข้างนับ 73 ปี ด้วยการเลือกดอกไม้สีขาวละมุน วางบนหีบพระศพด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง
  • ราชวงศ์อังกฤษสุดเศร้า ฝังพระศพเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์

ปฏิบัติการสะพานโฟร์ธ


พิธีพระศพเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ ณ โบสถ์เซนต์ จอร์จ ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ ที่มีความเรียบง่ายตามพระประสงค์ ทว่าเต็มไปด้วยความขรึมขลังของพิธีการในการถวายพระเกียรติยศแด่ผู้วายชนม์ ตามพระราชประเพณีของราชวงศ์อังกฤษ  ได้ผ่านพ้นไปแล้วเมื่อ 17 เมษายน ที่ผ่านมา

พิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป ซึ่งสิ้นพระชนม์อย่างสงบที่พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ขณะพระชนมายุ 99 พรรษา เป็นไปตามแผนงานพิธีพระศพ ที่เรียกว่า 'Operation Forth Bridge' หรือ ปฏิบัติการสะพานโฟร์ธ ซึ่งเป็นรหัสลับที่ใช้เรียกแผนดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป ที่มีการเตรียมการวางแผนกันล่วงหน้ามาหลายปี

ในขณะที่ทางการอังกฤษ ได้ใช้ชื่อสะพานมาตั้งเป็นชื่อรหัสลับในพิธีพระศพเจ้านายในราชวงศ์ เพื่อต้องการเตรียมความพร้อมในพิธีพระศพให้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยและราบรื่นที่สุด เนื่องจากสมัยก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ในสหราชอาณาจักรนั้น ดำเนินการไม่เรียบร้อยมาตลอด

...

สำหรับ ปฏิบัติการสะพานโฟร์ธ ซึ่งเป็นชื่อของสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโฟร์ธ และเป็นสะพานที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของสกอตแลนด์ที่ถูกนำมาใช้เป็นชื่อแผนปฏิบัติงานในพิธีพระศพเจ้าชายฟิลิปนั้น ไม่ได้จัดแบบรัฐพิธี โดยไม่มีการตั้งพระศพเพื่อให้ประชาชนเข้าแถวมารำลึกอาลัย ตามพระประสงค์ของเจ้าชายฟิลิป อีกทั้งขนาดของพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป มีความเทียบเท่ากับพิธีพระศพของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนีในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 

แม้แต่รถบรรทุกหีบพระศพ เจ้าชายฟิลิปยังได้ทรงออกแบบรถบรรทุกหีบพระศพด้วยพระองค์เอง และทรงเตรียมการล่วงหน้าในเรื่องนี้ไว้นานถึง 16 ปี หรือตั้งแต่ปี 2003 ขณะพระองค์ทรงมีพระชนมายุ 83 พรรษา ด้วยการดัดแปลงรถบรรทุกแลนด์โรเวอร์ และให้มีส่วนหลังของรถที่เปิดได้สำหรับบรรทุกหีบพระศพ อีกทั้งสีของรถให้เป็นสีเขียวของทหาร

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี

ทว่าจากสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ระบาด จึงทำให้ต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อ มีการลดจำนวนแขกที่จะให้เข้ามาร่วมในพิธีที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ เหลือเพียงแค่สมาชิกในพระบรมวงศานุวงศ์เพียง 30 พระองค์เท่านั้น ประกอบด้วย สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 พระโอรสพระธิดา 4 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก และ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลส์ แห่งเวสเซกซ์ พร้อมด้วยคู่สมรส รวมทั้ง พระนัดดา อาทิ เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ 

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สุดอาลัย ทรงเลือกดอกไม้ประดับหีบพระศพด้วยพระองค์เอง

ความสูญเสีย พลัดพรากจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป พระสวามีในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียพระทัยอย่างยิ่งต่อสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 ตลอดจนพระโอรส พระธิดา พระนัดดา พระสหาย บุคคลใกล้ชิด และชาวอังกฤษ รวมทั้งผู้คนจำนวนไม่น้อยทั่วโลก

โดยเฉพาะสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพบการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง พระสวามีที่ครองคู่อยู่เคียงข้างกันมานานกว่า 73 ปี ซึ่งสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เคยตรัสถึงเจ้าชายฟิลิปว่าคือ 'ความแข็งแกร่งและความยืนหยัดของพระองค์'

...

สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2

ด้วยเหตุนี้ ท่ามกลางความเศร้าโศก จึงทำให้บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพารในสำนักพระราชวัง ตลอดจนชาวอังกฤษมีความเป็นห่วงอย่างยิ่งในพระพลานามัยของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งปีนี้ ทรงมีพระชนมพรรษา 94 พรรษาด้วยเช่นกัน

หนึ่งวันก่อนถึงกำหนดวันพิธีพระศพ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงโปรดที่สุด และไม่เคยเผยแพร่ในที่สาธารณะมาก่อน โดยเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่ฉายร่วมกับเจ้าชายฟิลิปที่อาเบอร์ดีนเชียร์ ขณะเสด็จพระราชดำเนินที่ปราสาทบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ เมื่อปี 2003 ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงมีพระอิริยาบถผ่อนคลาย พระพักตร์ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข และพระบรมฉายาลักษณ์นี้ ทรงฉายโดยเคาน์เตสแห่งเวสเซกซ์ 

...

นอกจากนั้น บนหีบพระศพของเจ้าชายฟิลิป นอกจากประดับด้วยพระมาลาและกระบี่ทหารเรือแล้ว ยังมีช่อดอกไม้สีขาวสวยละมุนของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 วางอยู่ด้วย

ดอกไม้เหล่านี้ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ยังให้ความสำคัญในการแสดงถึงความรักและอาลัยเจ้าชายฟิลิปอย่างลึกซึ้ง ด้วยทรงเลือกดอกไม้สีขาวประดับหีบพระศพเหล่านี้ ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ทั้งดอกลิลลี่ ดอกกุหลาบ ดอกแวกซ์ฟลาวเวอร์ ดอกสวีทพี และดอกมะลิสีขาว เพื่อทรงต้องการมอบให้แก่ชายผู้เป็นที่รักของพระองค์ และอยู่เคียงข้างทั้งยามสุขยามทุกข์มาตลอด 73 ปี

ดอกไม้เหล่านี้เป็นดอกไม้ที่มีความหมายซุกซ่อนอยู่ ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่ใช้กันในพิธีแต่งงานและพิธีศพ, ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ประจำเดือนเกิดของเจ้าชายฟิลิปในเดือนมิถุนายน, ดอกสวีทพี เป็นดอกไม้ที่หอมละมุนมากที่สุด คือสัญลักษณ์ของความสุขอันละเอียดอ่อนและการจากลา หรือคำขอบคุณ ส่วนดอกแวกซ์ฟลาวเวอร์ เป็นสัญลักษณ์ของความรักครั้งสุดท้าย

พร้อมทั้งเขียนการ์ดแสนหวานว่า ในความทรงจำของความรัก และลงชื่อว่า ‘ลิลลีเบท’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นขณะยังทรงพระเยาว์ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ที่เจ้าชายฟิลิปทรงเรียกด้วยความรัก

...

ฝังพระศพที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์

พิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป เริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น.ของวันที่ 17 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนพิธีจะเริ่มขึ้น พระราชโอรสและพระราชธิดาของดยุคแห่งเอดินบะระได้เสด็จพระดำเนินตามรถบรรทุกหีบพระศพด้วยพระพักตร์ที่โศกเศร้า โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี เสด็จพระดำเนินอยู่แถวหน้า ของด้านหลังรถบรรทุกหีบพระศพเจ้าชายฟิลิป มายังโบสถ์เซนต์ จอร์จ

ในขณะที่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับนางสนองพระโอษฐ์ ด้วยการทรงประทับรถยนต์พระที่นั่ง ปิดท้ายขบวน

และเมื่อเข้ามาภายในโบสถ์เซนต์ จอร์จแล้ว สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงนั่งเพียงลำพัง ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในขณะที่ชาวอังกฤษและผู้คนไม่เคยเห็นพระพักตร์ของพระองค์ที่โศกเศร้าเช่นนี้ในที่สาธารณะมาก่อนเลย

เจ้าคณะแห่งโบสถ์เซนต์ จอห์จ แห่งพระราชวังวินด์เซอร์ ได้กล่าวสดุดีเจ้าชายฟิลิป ผู้ล่วงลับว่า 'ทรงเป็นผู้ที่มีพระเมตตา มีพระอารมณ์ขัน และมีพระกรุณา'

เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ
เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ


หลังเสร็จสิ้นพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิปแล้ว จากนั้นพระศพของพระองค์ได้ถูกฝังไว้ที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ เป็นการชั่วคราว และจะมีการถูกย้ายอีกครั้ง ไปฝังที่ โบสถ์รำลึกสมเด็จพระเจ้าจอร์จ ที่ 6 พระราชบิดาของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ในวันที่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต เพื่อจะได้ทรงเคียงข้างชั่วนิรันดร์กับผู้หญิงที่พระองค์ทรงรักและครองคู่มายาวนานนับ 73 ปี

ผู้เขียน :  อรัญญา ศรีจันทรนิตย์

ที่มา : BBC ,standard ,thelist