กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ สั่งระงับการใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกา สำหรับคนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี หลังมีรายงานอาการข้างเคียงลิ่มเลือดอุดตันในต่างประเทศ
การประกาศระงับใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีของทางการฟิลิปปินส์ มีขึ้นในขณะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ยังวิกฤติหนัก ทำให้ทางการเพิ่งประกาศล็อกดาวน์ในกรุงมะนิลาเมืองหลวง และเมืองโดยรอบ กระทบต่อการใช้ชีวิตของพลเมืองกว่า 24 ล้านคน โดยขณะนี้ หลายประเทศในยุโรปยังคงระงับใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาในประชากรวัยหนุ่มสาว หลังจากมีกระแสความกังวลเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีน
โดยสำนักงานควบคุมความปลอดภัยในสังกัดองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปเพิ่งกลับลำออกมายอมรับว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ผิดปกติเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซ์ฟอร์ด แต่ย้ำว่าภาวะดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันจะเกี่ยวข้องกับวัคซีนตัวนี้แต่อย่างใด
...
นายอีริค โดมิงโก ผู้อำนวยการทั่วไปขององค์การอาหารและยาฟิลิปปินส์ ระบุว่า แม้จะยังไม่พบเคสของผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงภาวะลิ่มเลือดอุดตันในประเทศ แต่ทางองค์การอาหารและยา แนะนำให้ระงับการใช้วัคซีนตัวนี้สำหรับคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี ไปก่อน เพื่อรอผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญและรอแนวทางอย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลกด้วย
โดยขณะนี้ฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อใช้ในประเทศแล้ว 2.5 ล้านโดส ส่วนใหญ่มาจากบริษัทซิโนแวคของจีน และยังได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกามาจากโปรแกรมโคแวกซ์ อีก 525,600 โดส ซึ่งถูกนำไปใช้ฉีดให้พลเมืองแล้ว โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนจากแอสตราเซเนกาเพิ่มมาอีก 3 ล้านโดส ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า.
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย