ญี่ปุ่นระงับโครงการปล่อยเงินกู้และเงินให้เปล่าเพื่อการพัฒนาเมียนมา มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท หลังสถานการณ์ประท้วงเดือด ยอดตายพุ่งกว่า 520 ศพ
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เว็บไซต์ข่าวอิรวดี รายงานว่า นายโทชิมิทสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ที่ผ่านมาญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้สนับสนุนทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของเมียนมาผ่านโครงการความช่วยเหลือการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือโอดีเอ แต่ตอนนี้ญี่ปุ่นจะไม่มีโครงการใหม่สำหรับเมียนมา เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจน
นายโทชิมิทสึ โมเตกิ ระบุว่าญี่ปุ่นจะระงับโครงการความช่วยเหลือใหม่แก่ รัฐบาลเมียนมา หลังจากเมื่อวันเสาร์ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ประท้วงชาวเมียนมาถูกทหาร ตำรวจ ยิงเสียชีวิต 114 ศพ จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 520 ศพ นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. โดยเชื่อว่าการระงับให้ความช่วยเหลือทางการเงินจะส่งผลกระทบ และเป็นแรงกดดันต่อกองทัพเมียนมามากกว่ามาตรการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ ในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่เมียนมา เป็นมูลค่ารวม 1 ล้านล้านเยน (280,000 ล้านล้านบาท) ไม่รวมเงินให้เปล่าอีก 300,000 ล้านเยน (84,000 ล้านบาท) และเงินช่วยเหลือด้านเทคนิคอีก 88,000 ล้านเยน (24,000 ล้านบาท) และนับตั้งเกิดรัฐประหารในเมียนมา ตามด้วยเหตุประท้วงนองเลือด กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นช่วยกดดันด้วยการระงับเงินช่วยเหลือที่เคยมอบให้แก่กองทัพเมียนมา
...
เฉพาะเมื่อปี 2562 รัฐบาลญี่ปุ่นมอบเงินช่วยเหลือเมียนมาผ่านโครงการโอดีเอ เป็นมูลค่าเกือบ 190,000 ล้านเยน (53,000 ล้านบาท) ในจำนวนนี้ประกอบด้วยเงินกู้ เงินให้เปล่า และเงินช่วยเหลือด้านเทคนิค ขณะที่การประชุมงบประมาณประจำปีที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นจัดสรรเงินกู้ 4 ก้อนช่วยเหลือโครงการพัฒนาให้กับประเทศต่างๆ เป็นมูลค่า 121,100 ล้านเยน (34,000 ล้านบาท).
ที่มา Irrawaddy