เจ้าหน้าที่ในอียิปต์กำลังเร่งกู้เรือขนสินค้าขนาดยักษ์ที่เกยตื้นขวางคลองสุเอซ ซึ่งส่งผลให้การขนส่งสินค้าทั่วโลกหยุดชะงักมา 5 วันแล้ว โดยเตรียมใช้แผนสำรองหากการขุดทรายไม่ได้ผล
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า สำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ เปิดเผยในวันเสาร์ที่ 27 มี.ค. 2564 เรือลากโยงจำนวน 14 ลำกำลังพยายามใช้ประโยชน์จากกระแสน้ำขึ้นสูง กู้เรือขนตู้คอนเทนเนอร์ขนาดยักษ์ชื่อ ‘เอเวอร์ กิฟเวน’ ที่เกยตื้นขวางคลองซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งแออัดที่สุดในโลกแห่งนี้มาตั้งแต่เมื่อวันอังคาร ซึ่งกระทบต่อการขนส่งสินค้าไปทั่วโลก
นายโอซามา ราบี ประธาน SCA กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ว่า จนถึงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เรือขุดลอกขุดทรายจำนวนกว่า 20,000 ตันออกจากบริเวณหัวเรือ เอเวอร์ กิฟเวน ซึ่งติดลึกเข้าไปในตลิ่งของคลองสุเอซ ขณะที่มีการปล่อยน้ำถ่วงเรือออกจากเรือสินค้าลำนี้ถึง 9,000 ตันแล้ว เพื่อลดน้ำหนักของเรือ โดยท้ายเรือเริ่มขยับเขยื้อนได้แล้ว ขณะที่หางเสือกับใบจักรก็เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายราบีย้ำว่า คลื่นกับลมที่พัดแรงทำให้การปล่อยเรือลำนี้ทำได้ยาก และเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเรือจะลอยได้อีกครั้งเร็วแค่ไหน แต่ SCA จะทำงานตลอดเวลาเพื่อให้เรือลำอื่นๆ สามารถผ่านไปได้ เมื่อเอเวอร์ กิฟเวนหลุดเป็นอิสระแล้ว
นายราบีบอกด้วยว่า หากการขุดทรายและการลากจูงของเรือโยงยังไม่อาจทำให้เรือลำนี้ขยับได้ พวกเขาจะใช้แผนสำรองคือให้ทีมกู้ภัยขนตู้สินค้าลงจากเรือบางส่วนเพื่อลดน้ำหนัก แต่เขาหวังว่ามาตรการนี้จะไม่จำเป็น
ด้านนายจอห์น เดนโฮล์ม ประธานหอการค้าขนส่งทางเรือแห่งสหราชอาณาจักร (UKCS) บอกกับบีบีซีก่อนหน้านี้ว่า การขนสินค้าไปยังเรือลำอื่น หรือบนตลิ่งของคลองสุเอซ จะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ รวมถึงเครนยกที่ยืดได้มากกว่า 60 เมตร ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์
...
ทั้งนี้ รายงานเบื้องต้นระบุว่า เรือสินค้าความยาว 400 เมตร และน้ำหนักกว่า 200,000 ตันลำนี้ เกยตื้นหลังได้รับผลกระทบจากกระแสลมแรงและพายุทรายบดบังทัศนวิสัย แต่นายราบีเชื่อว่าสภาพอากาศไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เรือเกยตื้น แต่อาจมีความขัดข้องทางเทคนิค หรือความผิดพลาดของมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งปัจจัยทุกอย่างจะถูกทำให้ชัดเจนในการสืบสวน.