กองทัพเมียนมากล่าวโทษผู้ชุมนุมประท้วงที่ก่อเหตุวางเพลิง และใช้ความรุนแรง เป็นเหตุทำให้ชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับบุคคลและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารเมื่อเดือนก่อน

นายซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา แถลงข่าวในกรุงเนปิดอว์ ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงว่ามีทั้งสิ้น 164 ศพ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของพลเมืองทุกคน โดยกองทัพจะใช้กำลังเข้าปราบปรามให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง

นายซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายังได้กล่าวโทษผู้ชุมนุมว่ามีการใช้ความรุนแรง วางเพลิง จนทำให้กองกำลังความมั่นคง 9 นายเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังนำคลิปวิดีโอที่โรงงานถูกเผามาเปิด และประณามว่าการชุมนุมเช่นนี้ คงไม่มีประเทศ หรือองค์กรไหนที่จะบอกว่าเป็นการชุมนุมอย่างสันติ โดยเขาระบุว่า การใช้ความรุนแรงของผู้ชุมนุม เป็นเหตุทำให้ชาติตะวันตกทั้งอียู และยูเอ็น กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับบุคคลและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร

ขณะเดียวกัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายังเสริมด้วยว่า การที่มีการหยุดงานประท้วง จนทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งจากโรคโควิด-19 ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และไร้จริยธรรม พร้อมทั้งประณามการทำหน้าที่ของสื่อ ว่ามีการนำเสนอข่าวปลอม เป็นการจุดชนวนให้เกิดความไม่สงบ พร้อมขู่จะดำเนินคดีกับสื่อที่ติดต่อกับคณะกรรมการผู้แทนรัฐสภาพม่า (CRPH) ซึ่งเป็นตัวแทนของนางซูจี เนื่องจาก CRPH เป็นองค์กรผิดกฎหมาย และการเป็นสมาชิกมีโทษถึงประหารชีวิต

...

ขณะที่ สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) กล่าวว่า มีประชาชนอย่างน้อย 261 คน ถูกสังหารในการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยกองกำลังความมั่นคง ทำให้ประเทศตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ความไม่สงบที่เมืองมัณฑะเลย์ 3 คน ในจำนวนนี้มีเด็กวัยรุ่นชาย 1 คน

ทั้งนี้ รัฐบาลทหารพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับการทำรัฐประหารด้วยการกล่าวหาว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางออง ซาน ซูจี ได้โกงการเลือกตั้ง แม้คณะกรรมการการเลือกตั้งจะปฏิเสธเรื่องดังกล่าว โดยในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ยังมีการเปิดเผยรายละเอียดและกลโกงในการเพิ่มบัตรเลือกตั้งพิเศษ รวมทั้งคลิปวิดีโอที่มีประชาชนบอกเล่าว่า พวกเขาได้รับเงินจากตัวแทนพรรคเอ็นแอลดีด้วย นอกจากนี้ยังมีวิดีโอคำให้การของ เพียว มิน เต็ง อดีตมุขมนตรีนครย่างกุ้ง ที่กล่าวว่าเขาได้เข้าเยี่ยมซูจีหลายหน และให้เงินกับเธอทุกครั้งที่ต้องการ.

ที่มา : รอยเตอร์