ความกังวลเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ในยุโรปที่เลวร้ายลง ฉุดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ราคาน้ำมันดิ่งแรง ขณะที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นปานกลาง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 18 มี.ค. 2564 ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 153.07 จุด หรือราว 0.46% ปิดที่ 32,862.30 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 58.66 จุด หรือราว 1.48% ปิดที่ 3,915.46 จุด ขณะดัชนีแนสแด็ก ดิ่งหนัก 409.03 จุด หรือ 3.02% ปิดที่ 13,116.17 จุด
วอลล์สตรีทถูกฉุดลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะ 10 ปี เพิ่มสูงขึ้นไปแตะ 1.75% สูงที่สุดในรอบ 14 เดือน หลังจากเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี และเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปจนถึงปี 2566 ส่งผลให้หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เช่นกลุ่มเทคโนโลยี ลดลง
ตลาดโดนถ่วงหนักขึ้นไปอีกหลังจากนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์กรุงปารีส และภูมิภาคอื่นๆ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดระลอกที่ 3 ของไวรัสโควิด-19
ด้านราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี จากความกังวลเรื่องแนวโน้มความต้องการพลังงาน เนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะการชะลอตัวลงการขายกระจายวัคซีนในยุโรป และการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหลายประเทศของยุโรป ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเช่นกัน
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนเมษายน ดิ่งลง 4.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7.1% ไปอยู่ที่ 60.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ร่วงหนัก 5.32 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 8% ปิดที่ 62.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
...
ขณะที่ราคาทองคำฟื้นตัวปิดบวก จากความคาดหวังว่า การคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ของเฟด จะช่วยหนุนราคาทองคำต่อไป แต่การเพิ่มขึ้นของค่าเงินดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองไม่ขยับขึ้นเท่าที่ควร โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,732.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ที่มา: reuters