23 กุมภาพันธ์ 2564 ผมมีโอกาสตาม ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ไปพบกับชาวรัสเซียที่อยู่ในไทยหลายท่าน วันนั้นเป็นวันหยุดของพวกรัสเซียเพราะเป็นวันพิทักษ์ปิตุภูมิ (ในอดีตชื่อว่าวันแห่งกองทัพโซเวียตและกองทัพเรือ) พวกรัสเซียผู้ชายก็คุยกันถึงประสบการณ์ของแต่ละคนที่มาอยู่ในประเทศไทย บ้างรับราชการ บ้างเป็นสื่อมวลชน บ้างทำธุรกิจ
ผมได้เจอคุณอาชาวรัสเซียท่านหนึ่งซึ่งเกิดในไซบีเรียและจบการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เคมี จบปุ๊บก็มีวิสัยทัศน์เดินทางมาอยู่ประเทศไทย เพราะเห็นความหลากหลายทางชีวภาพของพืช ซึ่งสามารถนำมาศึกษาวิจัยและพัฒนาต่อยอดเป็นอาหารเสริมและยาได้
เกือบ 30 ปีที่คุณอาอยู่ในไทย ท่านทำโรงงานผลิตอาหารเสริมและยาส่งไปขายทั่วโลก ปัจจุบันคุณอาทำโรงงานในพื้นที่ใหญ่โต มีห้องผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย 197 ห้อง คุณอาแต่งงานกับคนไทย และสร้างงานให้คนไทยนับร้อยครอบครัว
พบคุณอาชาวรัสเซีย ทำให้ผมนึกถึงทรัพยากรธรรมชาติของเราที่มีมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะทรัพยากรด้านพืชและสมุนไพร หากระบบการศึกษาของเราสร้างนักวิทยาศาสตร์วิจัยต่อยอดในทรัพยากรที่มี เราก็สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อีกช่องทางหนึ่ง
รัสเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่มากถึง 17 ล้านตารางกิโลเมตร แต่ความหลากหลายของพืชมีไม่มาก ยิ่งภูมิภาคไซบีเรียด้วยแล้ว ถึงแม้จะมีพื้นที่มากถึง 12 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าไทยเกือบ 25 เท่า แต่บางส่วนของไซบีเรียมีภูมิอากาศหนาวเย็นแบบขั้วโลก มีต้นไม้อยู่ไม่กี่ประเภท เมื่อมาเจอความหลากหลายของต้นไม้ในไทยทำให้คุณอามองเห็นโอกาสที่จะสร้างอาณาจักรด้านอาหารเสริมและยาที่นำสารสกัดมาจากพืช และใช้เวลาไม่ถึง 30 ปีสร้างความสำเร็จได้ระดับสูง
...
นอกจากกลุ่มชาวรัสเซียแล้ว วันพิทักษ์ปิตุภูมิของรัสเซียที่ผ่านมา ผมยังมีโอกาสได้สนทนากับศาสตราจารย์ ดร.โมซาฟารี เดิมเป็นชาวอิหร่าน หลังจากมีชื่อเสียงในเรื่องนาโนไบโอเทคโนโลยีแล้วก็ตระเวนสอนหนังสือในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และบั้นปลายท้ายที่สุดก็ได้รับสัญชาติออสเตรเลีย
ดร.โมซาฟารีเป็นอีกท่านหนึ่งซึ่งตะลึงในความหลากหลายทางชีวภาพของพืชในประเทศไทย แม้ว่าตำแหน่งของท่านจะเป็น ประธาน Australasian Nanoscience and Nanotechnology Initiative และเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 8 งาน แต่เมื่อได้รับเชิญมาทำวิจัยในไทย ท่านบอกเลยว่าไม่อยากไปอยู่ที่อื่น ท่านหลงใหลในความเป็นมิตรของคนไทยและบอกว่าประเทศไทยเหมาะสมที่สุดที่จะคิดค้นงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์นาโนและนาโนไบโอเทคโนโลยี
เล่าเรื่องคุณอาชาวรัสเซียให้ภรรยาของผมซึ่งเป็นชาวจีนฟัง ภรรยาบอกเรื่องวิทยาศาสตร์เคมีนี่สำคัญนะคุณ ประเทศจีนของฉันเน้นวิชานี้มาก เธอเล่าถึงอาจารย์สอนเคมีในชั้นมัธยมชาวจีนคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่านางจง ฮุยจวน จากเมืองเหลียนหยุนกัง มณฑลเจียงซู
วันหนึ่ง ผู้จัดการในโรงงานผลิตยาของรัฐมาทาบทามให้อาจารย์จงเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยและพัฒนายาที่มีชื่อว่า Hansoh Pharmaceutical Group โดยมีพนักงานตอนแรก 10 คน และกว่าจะสร้างระบบโรงงานให้ตรงตามมาตรฐานการผลิตยาได้สำเร็จ ต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี
ครบ 5 ปีแล้ว บริษัทของอาจารย์จงถึงได้เริ่มวิจัยพัฒนายาออกมาตามความต้องการของตลาด ขายยาได้เท่าใดก็แบ่งกำไรไว้ร้อยละ 5 (ภายหลังเป็นร้อยละ 10) เพื่อใช้เป็นงบวิจัยและพัฒนายาในปีถัดไป ปัจจุบัน อาจารย์จงเป็นเศรษฐีนีที่รวยที่สุดในทวีปเอเชีย มีทรัพย์สินประมาณ 5 แสนล้านบาท บริษัททำกำไรต่อเนื่องทุกปี อย่างเมื่อ พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นปีที่ก่อนจะมีวิกฤติโควิด-19 บริษัททำกำไรได้ 1.2 หมื่นล้านบาท
สินค้าของประเทศจะได้รับความเชื่อถือขั้นสูง ก็ต้องอาศัยนวัตกรรมใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆมาจากงานวิจัยและพัฒนานี่แหละครับ รวมทั้งนวัตกรรมทางด้านยารักษาโรคด้วย
คาดการณ์กันว่า พ.ศ.2566 อุตสาหกรรมยาของจีนจะมีเม็ดเงินที่ใช้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท เติบโตสูงถึงร้อยละ 23 จากปีก่อน.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com