เมื่อ 14 มี.ค. ผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 2 แห่งในเยอรมนี กำลังเป็นข้อพิสูจน์ว่า พรรครัฐบาลผสมนำโดยคริสเตียน เดโมแครตส์ ยูเนียน (ซีดียู) ของนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล กำลังตกที่นั่งลำบากกับการเลือกตั้งระดับสหพันธรัฐในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ หลังแพ้การเลือกตั้งทั้ง 2 แห่ง เพราะแมร์เคิล ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2548 ยาวนาน 16 ปี ประกาศแล้วว่าจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งอีก และจะครบวาระในเดือน ก.ย. ประกอบกับประชาชนไม่พอใจเรื่องการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ทั่วถึงกับเรื่องอื้อฉาวการจัดหาซื้อหน้ากาก ทำให้คะแนนนิยมที่เคยได้รับจาก 40% เมื่อเดือน มิ.ย.ปีกลาย ที่ครั้งนั้นได้รับเสียงชื่นชมในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหลืออยู่ที่ราว 33%
ทั้งนี้ รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ พบว่า พรรคกรีนชนะการเลือกตั้งคว้าได้ 31.4% พรรคซีดียูได้ไป 23.4% ส่วนรัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ รัฐเพื่อนบ้าน พรรคหัวเอียงซ้าย โซเชียล เดโมแครตส์ (เอสพีดี) มีคะแนนนำ 35.5% แซงพรรคซีดียู ซึ่งผลโพลความคิดเห็นมีคะแนนนำมาตลอดจนถึงเดือน ก.พ. กลับได้คะแนนเพียง 26.9% และเป็นสองรัฐที่เคยเป็นฐานที่มั่นของสายอนุรักษนิยม ซึ่งผลการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งสองรัฐเปิดโอกาสถึงความเป็นไปได้กับการรวมพันธมิตรทางการเมืองของพรรคกรีน พรรคเอสพีดีและพรรคฟรี เดโมแครตส์ (เอฟดีพี) สายเสรี.