รัฐบาลทหารเมียนมาทุ่มงบจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์สัญชาติแคนาดา-อิสราเอล 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 60 ล้านบาท เพื่อช่วยชี้แจงกับนานาประเทศ รวมทั้งแก้ข่าวสถานการณ์ชุมนุม และการทำรัฐประหาร
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมาทุ่มงบจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์สัญชาติแคนาดา-อิสราเอล 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 60 ล้านบาท เพื่อช่วยชี้แจงกับนานาประเทศ รวมทั้งแก้ข่าวสถานการณ์ชุมนุมและการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีเอกสารยืนยันว่ามีการทำข้อตกลงดังกล่าวจริง ลงนามโดยนายพลเมีย ตุน โอ รัฐมนตรีกลาโหมของเมียนมา และมีการระบุถึงค่าตอบแทนที่ทางบริษัทล็อบบี้ยิสต์ดังกล่าวจะได้รับ
อารี เบน เมนาช เจ้าของบริษัท ดิคเค่นส์ แอนด์ แมดสัน แคนาดา ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนรัฐบาลทหารเมียนมาในสหรัฐฯ คอยชี้แจงสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น และกอบกู้ภาพลักษณ์ของเมียนมาให้แก่หลายประเทศได้เข้าใจทั้ง ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล รัสเซีย ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่าง องค์การสหประชาชาติ นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวจะช่วยวางแผนนโยบายการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อเมียนมาด้วย อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพเมียนมายังไม่ออกมายืนยันหรือชี้แจงใดๆ ในประเด็นนี้

...
นายเมนาช ยังได้ชี้แจงต่อรอยเตอร์ด้วยว่า เขาได้รับมอบหมายให้โน้มน้าวสหรัฐฯ ว่าบรรดานายพลของเมียนมาต้องการเข้าหาชาติตะวันตก และออกห่างจากจีน นอกจากนี้ นายพลกองทัพเมียนมายังรับปากว่าจะปรับเปลี่ยนนโยบายต่อชาวโรฮีนจา หลังองค์การสหประชาชาติ เคยระบุว่า นายพลของกองทัพเมียนมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ขณะที่ จอห์น ซิฟท์ตัน จากฮิวแมนไรท์วอทช์ แสดงความเห็นว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่ล็อบบี้ยิสต์จะสามารถโน้มน้าวให้สหรัฐฯ เชื่อตามที่กล่าวมา อีกทั้งนายพลเมีย ตุนโอ ยังถูกลงโทษคว่ำบาตรจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ดังนั้นการจ่ายเงินจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายเมนาช ยืนยันว่าเขาได้ปรึกษากับทนายความแล้ว และเขาไม่ได้ละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด.
ที่มา :รอยเตอร์