ประธานาธิบดี อับโด เบนิเตซ แห่งปารากวัย เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีทั้งหมดลาออกจากตำแหน่ง เพราะปัญหาการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เมื่อ 6 มี.ค. อีก 1,158 ราย เป็นเกือบ 167,000 ราย อยู่อันดับ 70 ของโลก เสียชีวิตอีก 16 ราย รวมยอดสะสมแล้วเฉียด 3,300 ราย ซึ่งสัดส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มยังคงที่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ระบบสาธารณสุขในประเทศเข้าขั้นวิกฤติหนัก หลายโรงพยาบาลไม่มียารักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งการฉีดวัคซีนในประเทศก็ล่าช้าด้วยข้อมูลล่าสุดพบว่ามีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ถึง 0.1% ของประชากรราว 7.1 ล้านคน
สาเหตุดังกล่าวทำให้ประชาชนทั้งบุคลากรทางการแพทย์กับญาติผู้ติดเชื้อออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนที่กรุงอะซุนซิโอนและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ โดยกล่าวโทษรัฐบาลว่าฉกฉวยเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ควรนำมาใช้เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข จนเกิดเหตุรุนแรงปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่ มีผู้บาดเจ็บราว 20 คน ทั้งนี้ นายเบนิเตซเผยว่า ตนต้องการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เพื่อให้จัดการตามความต้องการของประชาชน แต่กลุ่มพรรคฝ่ายค้านต้องการให้นายเบนิเตซลาออกและเรียกร้องให้เลือกตั้งใหม่แทน.