หุ้นสหรัฐฯ ลดลงจากแรงฉุดกลุ่มเทคโนโลยี ในขณะที่นักลงทุนรอคองเกรสผ่านแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านราคาน้ำมันลงก่อนโอเปกประชุม ส่วนราคาทองคำบวกแล้วหลังลงต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 2 มี.ค. 2564 ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 143.99 จุด หรือราว 0.46% ปิดที่ 31,391.52 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 31.53 จุด หรือราว 0.81% ปิดที่ 3,870.29 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ร่วง 230.04 จุด หรือราว 1.69% ปิดที่ 13,358.79 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังลดลงอย่างต่อเนื่องจากการเปลี่ยนกลุ่มเล่นหุ้นของเหล่านักลงทุน จากกลุ่มที่เพิ่มขึ้นเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปสนใจบริษัทที่น่าจะทำผลงานได้ดีมากกว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัว เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังเฝ้ารอสภาคองเกรสสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายแพ็กเกจเยียวยาโควิด โดยวุฒิสภาจะเริ่มอภิปรายในสัปดาห์นี้
ด้านราคาน้ำมันดิบ ลดลงในวันอังคาร เนื่องจากผู้ค้ากำลังชั่งน้ำหนักระหว่างปริมาณความต้องการน้ำมันดิบกับอุปทาน ขณะที่เฝ้ารอรายงานข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดกันว่า พวกเขาอาจจะเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบต่อวันขึ้นมากสุดถึง 1.5 ล้านบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศแล้วว่าจะเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบขึ้นในเดือนเมษายน ขณะที่บริษัท อาบูดาบี เนชันแนล ออยล์ คอมพานี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แจ้งกับลูกค้าว่า พวกเขาจะผ่อนคลายการลดกำลังผลิตน้ำมันดิบลง 5% ในเดือนเมษายนเช่นกัน
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 0.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปอยู่ที่ 59.75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 0.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปอยู่ที่ 62.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำ หยุดสถิติลดลงต่อเนื่องไว้ที่ 5 วัน หลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับลดลงมากกว่า 0.3% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทรงตัวอยู่ที่ต่ำกว่า 1.5% เป็นวันที่ 2 ทำให้สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 10.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.6% ปิดที่ 1,733.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์.