รัฐบาลศรีลังกาเลือกเกาะห่างไกล เป็นสถานที่ใช้ฝังศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์กับอิสลาม หลังก่อนหน้านี้จะบังคับให้เผาศพ ซึ่งผิดหลักศาสนา
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลศรีลังกาประกาศในวันอังคารที่ 2 มี.ค. ว่าจะใช้เกาะ ‘อิรานาธิวู’ (Iranathivu) ในอ่าวแมนเนอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นสถานที่ฝังศพของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ที่นับถือศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นประชากรส่วนน้อยในประเทศ
รัฐบาลศรีลังกาบังคับให้ชนกลุ่มน้อยเผาศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ตามแบบศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นประชากรส่วนมาก มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีก่อน ทั้งที่ศาสนาอิสลามมีกฎห้ามเผาศพ โดยรัฐบาลอ้างว่า การฝังจะทำให้น้ำบาดาลปนเปื้อน แต่ในสัปดาห์ก่อน รัฐบาลยอมยกเลิกมาตรการ เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แอมเนสตี้ หรือ สหประชาชาติ
ด้านองค์การอนามัยโลก ออกคำแนะนำเรื่องวิธีการฝังศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างปลอดภัย แต่ระบุด้วยว่า ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่ชี้ว่า ควรใช้การเผาศพเพื่อป้องกันการระบาด
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการแล้ว แต่ผู้นำชาวมุสลิมกับชาวคริสต์ก็ยังออกมาแสดงความไม่พอใจความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลศรีลังกา โดยนาย ฮิลมี อาห์เหม็ด รองประธานสภามุสลิมแห่งศรีลังกา บอกกับ บีบีซี ว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่น่าหัวเราะและไม่รู้สึกรู้สาใดๆ นี่เป็นการเหยียดเชื้อชาติกันอย่างชัดเจน และที่น่าเศร้าที่สุดคือ มันเกือบทำให้ชาวมุสลิมต้องมีปัญหากับชาวทมิฬ ที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้น
ด้านนักบวชรูปหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะอิรานาธิวู บอกกับ บีบีซี ว่า ชาวบ้านรู้สึกเจ็บปวดกับการตัดสินใจของรัฐบาลมาก และพวกเขาขอต่อต้านแผนการนี้