• จำนวนประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีในจีน จะเพิ่มขึ้นแตะ 300 ล้านคน ภายในปี 2025 คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด สวนทางกับตัวเลขของประชากรวัยแรงงานที่ลดลง โดยผู้ที่มีอายุ 16 ถึง 59 ปี ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะลดลงเหลือ 830 ล้านคน ภายในปี 2030 นำไปสู่วิกฤติจำนวนประชากร
  • รัฐบาลจีนพยายามแก้ปัญหาโดยการผ่อนปรนมาตรการควบคุมอัตราการเกิด ให้ประชาชนสามารถมีบุตรได้สองคนในปี 2016 แต่อัตราการเกิดยังคงตกลง 4 ปีติดต่อกัน แต่ค่าครองชีพทำให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจไม่มีบุตร
  • นักวิเคราะห์ชี้หนึ่งในการแก้ปัญหาคือการเปิดรับคนงานต่างชาติ ใช้เครื่องจักรเข้าทดแทนแรงงาน รวมไปถึงพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ให้มากขึ้น 

วิกฤติจำนวนประชากรเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่จีนต้องเผชิญจากจำนวนวัยแรงงานในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องสวนทางกับตัวเลขผู้สูงอายุในประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ทำให้เกิดแรงกดดันในการยกเลิกมาตรการควบคุมอัตราการเกิดในประเทศเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ขณะที่ทางการได้ประกาศรณรงค์ให้มณฑลทางตอนเหนือของประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำ นำร่องในการยกเลิกมาตรการควบคุมอัตราการเกิด ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ของจีนอย่างกว้างขวาง 

...

ขณะเดียวกันค่าครองชีพ และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คู่รักชาวจีนตัดสินใจไม่มีบุตร ส่วนนักวิเคราะห์มองว่า ถึงแม้จะยกเลิกการจำกัดอัตราการเกิดก็อาจแก้ปัญหาดังกล่าวได้ไม่ทันการณ์ ซึ่งเทรนด์การไม่มีบุตรนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น หากวัยทำงานมีอายุมากขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจจีน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกลายเป็นเศรษฐกิจที่สูงวัยก่อนที่จะเป็นเศรษฐกิจที่มั่งคั่ง ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าประเด็นดังกล่าวจะถูกยกขึ้นมาถกในการประชุมสมัชชาผู้แทนประชาชนจีนประจำปี ควบคู่กับการหารือการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนระหว่างปี 2021 ถึง 2025 



อัตราการเกิดสวนทางกับตัวเลขผู้สูงอายุ

การคาดการณ์ชี้ว่าจำนวนประชากรของจีนจะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ราว 1.44 พันล้านคน ถึง 1.46 พันล้านคน ในปี 2030 ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการลดลงของจำนวนของประชากรที่ยืดเยื้อหลังจากนั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางส่วนคาดว่าจำนวนประชากรจีนอาจลดลงเหลือ 800 ล้านคนในปี พ.ศ. 2100

ขณะที่จำนวนประชากรผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จะเพิ่มขึ้นแตะ 300 ล้านคน ภายในปี 2025 คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด 

ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับตัวเลขของประชากรวัยแรงงานที่ลดลง โดยผู้ที่มีอายุ 16 ถึง 59 ปี ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 896 ล้านคนในปี 2019 และคาดว่าจะลดลงเหลือ 830 ล้านคน ภายในปี 2030 นำไปสู่วิกฤติจำนวนประชากร โดยก่อนหน้านี้จีนได้ผ่อนปรนมาตรการ “ลูกคนเดียว” (One-child Policy) ที่บังคับใช้มายาวนาน 35 ปี ในปี 2015 ทำให้ในปีถัดมาอัตราการเกิดในประเทศเริ่มเพิ่มสูงขึ้น แต่ดูเหมือนการผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนเนื่องจากประชากรในประเทศได้ลดลงหลังจากนั้น 


นักวิเคราะห์ชี้ควรเริ่มพัฒนาแรงงาน พึ่งพาปัญญาประดิษฐ์

ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนปรนให้ประชาชนสามารถมีบุตรได้สองคนในปี 2016 แต่อัตราการเกิดยังคงตกลง 4 ปีติดต่อกัน โดยอัตราการเกิดลดลง 15 เปอร์เซ็นต์ แต่เศรษฐกิจของจีนนั้นพึ่งพาอุตสาหกรรมการผลิตที่จำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมาก และต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงเพื่อนำพาประเทศไปสู่นวัตกรรมที่ทันสมัย ปัญหาใหญ่ของจีนคือการที่จำนวนผู้สูงอายุนั้นกระทบต่อผลิตภาพแรงงาน ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าหนึ่งในการแก้ปัญหาคือการเปิดรับคนงานต่างชาติ ขณะที่อีกหนึ่งทางออกที่ทางการจีนเริ่มดำเนินการแล้วคือการยืดอายุวัยเกษียณ และเพิ่มทักษะของแรงงานที่มีอยู่ขณะนี้ รวมไปถึงใช้เครื่องจักรเข้าทดแทนแรงงาน พึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ให้มากขึ้น 

...

ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านของจำนวนประชากรยังนำมาซึ่งดีมานด์ใหม่ๆ โดยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ขณะที่สังคมผู้สูงอายุได้ขยายใหญ่ขึ้น นำไปสู่ดีมานด์ในโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ 


สามมณฑลอัตราการเกิดน้อยที่สุด ร้องยกเลิกมาตรการจำกัดอัตราการเกิด 

ส่วนมณฑลที่มีอัตราการเกิดน้อยที่สุดในประเทศจีน คือ มณฑลเหลียวหนิง มณฑลจี๋หลิน มณฑลเฮยหลงเจียง โดยมีอัตราการเกิดอยู่ที่ 6.45, 6.05 และ 5.73 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ เมื่อเทียบกับอัตราการเกิดเฉลี่ยที่ 10.48 ในปี 2019 ทำใ้ห้ทางการมณฑลเหลียวหนิงร้องขอให้รัฐบาลกลางอนุญาตให้ยกเลิกกฎควบคุมอัตราการเกิดทั้งหมด และให้เงินช่วยเหลือด้านการศึกษาสำหรับเด็กและฝึกอบรมครู

ถัดมาในปี 2018 มณฑลเหลียวหนิง ของจีน กลายเป็นมณฑลแรกของประเทศที่ให้เงินช่วยเหลือในการดูแลเด็กเพื่อกระตุ้นให้ประชากรมีลูกคนที่สอง ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการในมณฑลเหลียวหนิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะนำพาให้มณฑลอื่นๆ ของจีน ด้านนักประชากรมนุษย์ ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้รัฐบาลจีนตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมอัตราประชากรทั้งหมดในตอนนี้ ก็อาจจะยังสายเกินไปที่จะกู้สถานการณ์ หลังจากที่มาตรการได้ถูกบังคับใช้มายาวนานถึง 35 ปี

ผู้เขียน: นัฐชา

ที่มา: SCMP, CNBC, CNN

...