รัฐบาลอังกฤษ สหรัฐฯ และฝรั่งเศส ร่วมกันออกมาเรียกร้องให้กองทัพพม่าปล่อยตัวซูจี ประณามการยิงผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างสันติ เป็นเรื่องรับไม่ได้

เมื่อ 22 ก.พ.64 สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซีเกาะติดสถานการณ์ตึงเครียดในเมียนมา ขณะกองทัพปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารรุนแรงมากขึ้น หลังจากได้ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และควบคุมตัว นางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ศพ ว่า นายโดมินิค ร๊าบ รมว.ต่างประเทศอังกฤษ เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาต้องปล่อยตัวนางซูจี 

รมว.ต่างประเทศของอังกฤษ ซึ่งเคยเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมของพม่า ยังได้เตือนกองทัพเมียนมาว่า การยิงผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยนายร๊าบ ซึ่งจะกล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยังจะกล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมาขณะนี้ว่ากำลังเลวร้ายมากขึ้น ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน อีกทั้งจะเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาควรจะหลีกทาง และเคารพกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศ

ชาวพม่ารวมพลังชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหาร
ชาวพม่ารวมพลังชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหาร

...

ขณะที่ รอยเตอร์รายงานว่า นายแอนโทนี บลินเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะใช้มาตรการที่หนักแน่นมากขึ้นต่อเหล่าผู้นำกองทัพเมียนมาที่ก่อรัฐประหาร พร้อมทั้งรัฐบาลสหรัฐฯจะขอยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวพม่า ขณะที่พวกเขาได้เรียกร้องให้กองทัพ 10 วัน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อคณะผู้นำกองทัพที่ก่อรัฐประหาร รวมทั้งประธานาธิบดีรักษาการของเมียนมา

ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกมาประณามกองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารอย่างสันติ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายคน โดยกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในมัณฑะเลย์ ที่มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 2 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ.64 เป็นเรื่องที่ไม่อาจรับได้.