• องค์การอนามัยโลกเสร็จสิ้นภารกิจสืบสวนหาต้นตอการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นของจีน โดยไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด

  • WHO ยังเชื่อว่าไวรัสโควิด-19 มาจากค้างคาวแล้วแพร่สู่มนุษย์ แต่จีนเสนอทฤษฎีใหม่ว่า เชื้ออาจปะปนมากับอาหารแช่แข็งนำเข้า ซึ่ง WHO บอกว่าต้องตรวจสอบเพิ่ม

  • ทีมสืบสวนยังพบร่องรอยด้วยว่า โควิด-19 อาจระบาดในอู่ฮั่นนาน และกว้างกว่าที่เคยคิดไว้ และอาจระบาดมาก่อนเดือนธันวาคม 2562 ที่พบเชื้อเป็นครั้งแรก

องค์การอนามัยโลก (WHO) เสร็จสิ้นภารกิจ 28 วัน ในการหาต้นกำเนิดของโรคโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนแล้ว โดยยังไม่พบว่าไวรัสตัวนี้มีจุดเริ่มต้นจากที่ใด

ทีมผู้เชี่ยวชาญของ WHO กลับจากอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่โรคโควิด-19 ปรากฏขึ้น พร้อมกับทฤษฎีใหม่ๆ มากมาย และคำถามอีกหลายข้อที่ยังคงไม่ได้คำตอบ แต่พวกเขายังเชื่อว่า ไวรัส ซาร์ส-โควี-2 มีต้นกำเนิดในค้างคาว ก่อนจะส่งต่อไปยังมนุษย์โดยตรง หรืออาจผ่านสัตว์ตัวกลาง ขณะที่มีอีกทฤษฎีที่ฝั่งจีนพยายามผลักดันคือ ไวรัสอาจกำเนิดจากที่อื่น และมาถึงอู่ฮั่นโดยปนกับอาหารแช่แข็งนำเข้า

WHO ยังพบความเป็นไปได้ด้วยว่า โวรัสโควิด-19 อาจแพร่กระจายในเมืองอู่ฮั่น ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 เป็นวงกว้างกว่าที่เคยคิดเอาไว้ และพยายามขอตรวจสอบตัวอย่างเลือดบริจาคในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งอาจทำให้รู้เวลาที่ไวรัสเริ่มระบาดชัดเจนมากขึ้น โดยพวกเขามีแผนที่จะเดินทางกลับไปอู่ฮั่นอีกครั้ง เพื่อทำภารกิจต่อให้เสร็จ แม้ว่าตอนนี้อาจสายเกินไปที่จะหาคำตอบนี้แล้วก็ตาม

ตลาดค้าปลีก ฮัวหนาน ในเมืองอู่ฮั่น
ตลาดค้าปลีก ฮัวหนาน ในเมืองอู่ฮั่น

...

WHO ตัดทฤษฎีต้นกำเนิดโควิดหลายข้อ

ในภารกิจสืบสวนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกตัดทฤษฎีต้นกำเนิดไวรัสโควิด-19 ออกไปหลายข้อ รวมทั้งทฤษฎีที่ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่แพร่สู่คนจากสัตว์ป่าที่ขายอยู่ในตลาดค้าปลีก ‘หัวหนาน’ เพราะว่าพวกเขาพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่อื่นๆ ของเมืองอู่ฮั่นในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

WHO ยังได้เข้าตรวจสอบ ‘สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น’ ซึ่งมีทฤษฎีสมคบคิดระบุว่า เป็นสถานที่ทดลองไวรัสโควิด-19 จนไวรัสเกิดรั่วไหลออกมาภายนอกและแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยทีมผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเรื่องนี้ “ไม่น่าเป็นไปได้อย่างที่สุด” และไม่จำเป็นต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติมใดๆ

ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกยังเชื่อมั่นว่า ไวรัส ซาร์ส-โควี-2 มีต้นกำเนิดในค้างคาว ก่อนจะส่งต่อไปยังมนุษย์โดยตรง หรืออาจผ่านสัตว์ตัวกลาง แต่การตรวจสอบสัตว์หลากหลายสายพันธ์ุในจีนนับพันครั้ง พวกเขายังหาเชื้อที่ว่านี้ไม่พบ และไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนด้วยว่า สัตว์ชนิดใดคือตัวกลางที่แพร่เชื้อมาสู่มนุษย์

ทฤษฎีอาหารแช่แข็งของจีน

ทีมผู้เชี่ยวชาญฝั่งจีนซึ่งเข้าร่วมการสืบสวนขององค์การอนามัยโลกด้วย พยายามเสนอทฤษฎีต้นกำเนิดของโควิด-19 ในอู่ฮั่นของตัวเอง โดยพยายามผลักดันสมมติฐานที่ว่า ไวรัสอาจถูกนำมาที่อู่ฮั่นผ่านระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold ChainLogistics) โดยอ้างถึง การค้นพบการปนเปื้อนของเชื้อในอาหารแช่แข็งนำเข้า และการระบาดภายในประเทศในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

ดร.ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริการแผนงานสุขภาพฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กับ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ออกมาปฏิเสธถึงความเสี่ยงของการขนส่งอาหารแช่แข็ง แต่ ดร.ปีเตอร์ เบน เอมบาเรค หัวหน้าทีมสืบสวนของ WHO กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสืบให้แน่ใจว่า สัตว์ป่าแช่แข็ง ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ถูกต้อง จะสามารถแพร่กระจายไวรัสได้หรือไม่

สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น
สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น

ร่องรอยชี้ว่าโควิด-19 ระบาดในอู่ฮั่นนานและกว้างกว่าที่เคยคิดไว้

...

หลังจากกลับไปสวิตเซอร์แลนด์ ดร.เอมบาเรค ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า พวกเขาพบสัญญาณที่บ่งบอกว่า การระบาดครั้งแรกของไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อเดือนธันวาคม 2562 อาจกระจายวงกว้างกว่าที่เคยคิดกันไว้มาก

ทีมสืบสวนได้รับข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 174 ราย ที่พบทั้งในและโดยรอบเมืองอู่ฮั่นในช่วงเวลาดังกล่าว จากนักวิทยาศาสตร์จีน โดย 100 รายในจำนวนนี้ มีผลการตรวจจากห้องทดลองยืนยันว่าติดเชื้อ ส่วนที่เหลือเป็นการวินิจฉัยทางคลินิก โดยดูจากอาการของคนไข้

ดร.เอมบาเรค กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงจำนวนมากเหล่านี้ อาจถูกพบโดยแพทย์ของจีนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว หมายความว่าไวรัสอาจติดต่อสู่คนในเมืองอู่ฮั่นมากกว่า 1,000 รายในเดือนธันวาคมปีนั้น โดยย้ำว่า นี่เป็นเพียงตัวเลขจากการคาดคะเนเท่านั้น

ดร.ปีเตอร์ เบน เอมบาเรค หัวหน้าทีมสืบสวนของ WHO
ดร.ปีเตอร์ เบน เอมบาเรค หัวหน้าทีมสืบสวนของ WHO

...

โควิด-19 อาจระบาดในอู่ฮั่นก่อน ธ.ค. 62

ดร.เอมบาเรค เผยอีกว่า จากการตรวจสอบด้วยวิธีใหม่ พวกเขาพบเป็นครั้งแรกว่า มีไวรัสซาร์ส-โควี-2 ที่มีลำดับพันธุกรรมแตกต่างกันถึง 13 ชนิดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น เมื่อเดือนธันวาคม 2562

การเปลี่ยนแปลงของลำดับพันธุกรรมของไวรัสสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเชื้อย้าย หรือสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ในตัวคนหรือสัตว์ แต่การพบไวรัสหลายสายพันธ์ุเช่นนี้ ชี้ว่ามันอาจเคลื่อนย้ายหมุนเวียนในพื้นที่มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งนี่อาจเป็นหลักฐานแรกที่ชี้ว่า ไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายในเมืองอู่ฮั่นมาก่อนเดือนธันวาคม

ขณะที่ ดร.เอมบาเรค ระบุอีกว่า ทีมภารกิจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคโควิด-19 จำนวน 92 ราย ที่พบในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2562 ซึ่งทีมของ WHO ขอให้มีการตรวจหาแอนติบอดีสำหรับเชื้อโควิด-19 ในตัวพวกเขาอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมี 67 คนยินยอมให้ตรวจ และผลออกมาเป็นลบทั้งหมด แต่เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันว่า แอนติบอดีสามารถอยู่ในร่างกายได้ถึง 1 ปี จึงไม่อาจบอกได้ว่า พวกเขาติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่

...

ก้าวต่อไปของ WHO

ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ความเป็นไปได้ต่างๆ อย่างคงเปิดกว้าง และจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมมากกว่านี้ เพื่อตามหาต้นกำเนินของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจร่วมถึง การศึกษาว่า มนุษย์ติดเชื้อจากผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งได้หรือไม่, การตามรอยผลิตภัณฑ์สัตว์แช่แข็งที่ส่งมายังตลาดหัวหนาน และขยายการตรวจสอบไปทั่วโลก เพื่อหาหลักฐานการแพร่กระจายของไวรัสก่อนเดือนธันวาคม 2562

ด้าน ดร.เอมบาเรค หวังว่าทีมผู้เชี่ยวชาญจะได้กลับไปอู่ฮั่นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อดำเนินการสืบสวนต่อ แต่ไม่อาจบอกได้ว่าการเดินทางครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด

ขณะที่รัฐบาลจีนเสนอแนะให้องค์การอนามัยโลกทำการศึกษาภาคสนามในประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่ง ดร.ปีเตอร์ แดสแซค หนึ่งในสมาชิกทีมผู้เชี่ยวชาญของ WHO บอกกับสื่อจีนว่า จุดหมายต่อไปในการสืบสวนอาจเป็นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อย่างไรก็ตาม ดร.แฮสเซน แวลลี นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัย ลา โทรบ ในเมืองเมลเบิร์น ของออสเตรเลีย เชื่อว่า ตอนนี้อาจจะสายเกินไปที่จะทำความเข้าใจต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ตัวนี้ เพราะเวลาผ่านมาเนิ่นนานถึง 12 เดือนแล้ว กว่าที่การสืบสวนจะเริ่มต้นขึ้น



ผู้เขียน: H2O

ที่มา: straitstimesabc, cnn