เจ้าหญิงลาติฟา พระธิดาเจ้าผู้ครองนครดูไบ ซึ่งพยายามหลบหนีออกจากประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน อ้างในวิดีโอลับว่า ถูกขังเดี่ยวที่บ้านแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่ถูกพาตัวกลับมาที่ดูไบ

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหญิงลาติฟา พระชนมายุ 35 ปี พระธิดาของชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ ซึ่งเคยพยายามหลบหนีออกจากประเทศเมื่อปี 2561 แต่ถูกจับได้เสียก่อน เผยแพร่คลิปวิดีโอ อ้างว่าเธอกำลังถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ภายในบ้านพักตากอากาศที่ถูกเปลี่ยนเป็นคุก และไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้

ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งถูกเผยแพร่รายงานสารคดีของช่องบีบีซี พาโนรามา ปรากฏภาพเจ้าหญิงลาติฟา ตรัสว่า “ฉันเป็นตัวประกัน บ้านตากอากาศนี้ถูกเปลี่ยนเป็นคุก หน้าต่างทุกบ้านถูกปิดผนึกแน่น ฉันเปิดหน้าต่างบานใดไม่ได้เลย ฉันอยู่คนเดียว ถูกขังเดี่ยว ไม่อาจเข้าถึงความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้ ไม่มีการไต่สวน ไม่มีการตั้งข้อหา ไม่มีอะไรเลย ทุกวัน ฉันต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง ตำรวจขู่ฉันว่าจะไม่มีวันได้เห็นพระอาทิตย์อีก ที่นี่ฉันไม่ปลอดภัย”

เจ้าหญิงลาติฟาถูกพบเห็นในที่สาธารณะเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2561 ขณะที่พระองค์นั่งเรือยอชต์ ที่นอกชายฝั่งของประเทศอินเดีย ก่อนจะถูกกองกำลังความมั่นคงแดนภารตะกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บุกเข้าจับกุมและพาตัวกลับนครดูไบ โดยนี่ถือเป็นความพยายามหลบหนีไปต่างประเทศเป็นครั้งที่ 2 ของเจ้าหญิงลาติฟาแล้ว หลังจากพระองค์พยายามออกจากยูเออีในปี 2554 สมัยยังเป็นวัยรุ่น

...

ขณะที่สำนักข่าว บีบีซี ออกแถลงการณ์เผยว่า หลังจากเจ้าหญิงลาติฟาถูกพากลับดูไบได้ประมาณ 1 ปี เพื่อนของพระองค์ที่ชื่อว่า ทีนา จาเฮียไอเนน (Tiina Jauhiainen) ได้รับการติดต่อจากใครบางคนซึ่งช่วยให้เธอสามารถติดต่อกับเจ้าหญิงลาติฟาได้อย่างลับๆ และจาเฮียไอเนนก็สามารถส่งโทรศัพท์มือถือให้กับเจ้าหญิงลาติฟาได้ในที่สุด และหลังจากนั้นพระองค์ก็ใช้มันในการบันทึกวิดีโออย่างลับๆ มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยแอบบันทึกในห้องน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่พระองค์สามารถล็อกประตูได้

แถลงการณ์ของ บีบีซี ระบุด้วยว่า “บีบีซี พาโนรามา ขอยืนยันแต่เพียงฝ่ายเดียวว่า รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ที่ลาติฟาถูกจับเป็นตัวประกันนั้นเป็นความจริง พระองค์ถูกคุ้มกันด้วยตำรวจกว่า 30 นาย ซึ่งสับเปลี่ยนเวรยามกันทั้งในและนอกบ้านตากอากาศ สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากชายหาดเพียงไม่กี่เมตร แต่ยังไม่แน่ชัดว่าพระองค์ยังอยู่ที่นั่นหรือไม่”

ในคลิปวิดีโอดังกล่าวยังเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ รวมทั้งบรรยายว่าเจ้าหญิงลาติฟาต่อสู้กับทหารที่พยายามพาตัวพระองค์ออกจากเรือยอชต์อย่างไร และเรื่องที่พระองค์ถูกฉีดยาสลบก่อนพาขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวกลับไปยังดูไบด้วย

นางจาเฮียไอเนน ระบุว่า เธอกับเพื่อนตัดสินใจอย่างยากลำบากในการเผยแพร่คลิปวิดีโอในตอนนี้ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลาติฟา “เธอดูซีดเซียวเหลือเกิน เธอไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์มาหลายเดือนแล้ว จริงๆ เธอเดินไปมาได้เพียงแค่จากห้องของเธอกับห้องครัวเท่านั้น”

ทั้งนี้ ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำรัฐที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนานครดูไบให้เจริญรุ่งเรือง แต่พระองค์ถูกนักสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า ไม่ยอมรับความคิดเห็นขัดแย้ง และมีระบบยุติธรรมที่อาจเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง.