นางออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำประเทศเมียนมา ถูกตั้งข้อกล่าวหาที่ 2 แล้ว หลังจากเธอถูกกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานในวันอังคารที่ 16 ก.พ. 2564 ว่า 2 สัปดาห์ผ่านไป หลังจากกองทัพยึดอำนาจจากนางออง ซาน ซูจีและรัฐบาลของเธอ เมื่อ 1 ก.พ. นางซูจี ยังคงถูกกักบริเวณอยู่ในกรุงเนปิดอว์ โดยถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการนำเข้าและส่งออก หลังเจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสาร วอล์กกี้ ทอล์กกี้ ที่บ้านของเธอระหว่างการตรวจค้น
ล่าสุด นางซูจี ถูกตั้งข้อหาที่ 2 แล้ว โดยนายคีน หม่อง ซอว์ ทนายความของเธอเปิดเผยว่า ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ผู้นี้ ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายจัดการภัยพิบัติธรรมชาติเพิ่มเติม “เธอถูกตั้งข้อหาภายใต้มาตรา 8 ของกฎหมายการนำเข้าและส่งออก และมาตรา 25 ของกฎหมายจัดการภัยพิบัติธรรมชาติ”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่า นางซูจี ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายจัดการภัยพิบัติธรรมชาติได้อย่างไร แต่อดีตประธานาธิบดี อู วิน มินต์ ซึ่งถูกโค่นอำนาจพร้อมๆ กับนางซูจี ก็ถูกตั้งข้อหานี้จากกรณีที่เกี่ยวข้องกับการจัดแคมเปญที่กองทัพกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการควบคุมโควิด-19 และทั้งคู่จะปรากฏตัวผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างการไต่สวนของศาลในวันที่ 1 มี.ค.นี้
นายพล ซอว์ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารสนเทศคนปัจจุบัน ยืนยันว่า จำเลยทั้ง 2 คนอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย และสุขภาพแข็งแรงดี “พวกเขาไม่ได้ถูกจับกุม พวกเขาแค่อยู่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น”
...
ทั้งนี้ การก่อรัฐประหารของกองทัพทำให้ประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงทั่วประเทศเพื่อแสดงการต่อต้าน โดยในวันอังคารยังมีฝูงชนออกมาเคลื่อนไหวในนครย่างกุ้งเป็นวันที่ 11 ติดต่อกันแล้ว นอกจากนั้นยังมีฝูงชนกลุ่มใหญ่ในเมืองเมาะลำเลิง ออกมาปิดกั้นทางรถไฟ เพื่อไม่ให้รถไฟเดินทางออกจากเมืองได้ และกลุ่มคนขับรถไฟก็ร่วมประท้วงหยุดงาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเริ่มใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นในการควบคุมการประท้วงตามท้องถนน และการรณรงค์อารยขัดขืน ที่กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รัฐหยุดงานประท้วง โดยส่งเจ้าหน้าที่กระจายไปทั่วประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ใช้กระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมที่เมืองมัณฑะเลย์ รวมทั้งตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในเวลากลางคืน 2 คืนติดต่อกันแล้วนับตั้งแต่วันอาทิตย์ และออกปฏิบัติการตอนกลางคืนเพื่อจับกุมแกนนำผู้ชุมนุมด้วย.