หุ้นสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยนักลงทุนยังเดิมพันกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันลดลงแล้วหลังบวกต่อเนื่อง 8 วัน เช่นเดียวกับราคาทองหยุดสถิติไว้ที่ 4 วัน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 11 ก.พ. 2564 แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 7.10 จุด หรือราว 0.023% ปิดที่ 31,430.70 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 6.50 จุด หรือราว 0.17% ปิดที่ 3,916.38 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือราว 0.38% ปิดที่ 14,025.77 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับมาบวกอีกครั้ง นำโดย เอ็นวีเดีย คอร์ป และ อินเทล คอร์ป ดันเอสแอนด์พี 500 กับ แนสแด็กเพิ่มขึ้น ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านบาทของสหรัฐฯ จะรวมถึงการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย ท่ามกลางความกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังนายโจ ไบเดน ออกมาเตือนเรื่องการยกระดับการแข่งขันกับจีน

ด้านราคาน้ำมันดับลดลงแล้วในวันพฤหัสบดี หลังจากบวกติดต่อกันถึง 8 วัน หลังเกิดความสงสัยว่า ซาอุดีอาระเบียอาจพิจารณาลดการผลิตน้ำมัน น้อยกว่าที่พวกเขาประกาศไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยรายงานการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจยุโรปภาคฤดูหนาว เบื้องต้น ระบุว่า แนวโน้มการเติบโตระยะสั้นในพื้นที่ยูโรโซน อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา เพราะการระบาดของโควิด-19

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 0.44 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.8% ไปอยู่ที่ 58.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 0.60 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.98% ไปอยู่ที่ 60.87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

...

ส่วนราคาทองคำก็ลดลงเช่นกัน หลังจากบวก 4 วันติด เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์ก็ฟื้นตัวกลับมา โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 15.90 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 0.9% ปิดที่ 1,826.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ที่มา: reuters