• ชาวโลกไม่คาดคิดจะได้เห็นภาพเหตุการณ์ ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยพังถล่ม น้ำทะลักซัดเขื่อน 2 แห่งในอินเดียแตก สังเวยแล้ว 32 ศพ สูญหายราว 170 ราย
  • นักวิทย์เร่งสืบหาสาเหตุ ทำไมธารน้ำแข็งบนหิมาลัยพังถล่ม ขณะที่รายงานวิจัยพบธารน้ำแข็งที่หิมาลัยละลายเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2000
  • อินเดียฟันธง ภาวะโลกร้อน คือปัจจัยสำคัญทำธารน้ำแข็งละลายจนพังถล่มลงมาสุดวิปโยค

โศกนาฏกรรมธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยพังถล่ม กระแสน้ำถาโถมกระแทกเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำของรัฐ 2 แห่ง ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางภาคเหนือของอินเดียจนแตก ไหลบ่าท่วมหมู่บ้าน ถนนหนทาง และแม่น้ำด้านล่างอย่างน่าสะพรึงกลัว เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 ศพ ยังสูญหายอีกราว 170 ราย ถือเป็นมหาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ชนิดที่มนุษย์ตาดำๆ อย่างพวกเราไม่อาจจะต่อกรได้เลย

‘ทำไมธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย จึงพังถล่มลงมา?? เป็นคำถามที่เกิดขึ้นทันที เมื่อเราได้เห็นภาพเหตุการณ์น่ากลัวนี้ผ่านทางคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ทางโลกออนไลน์

ท่ามกลางการระดมกำลังทหาร ทีมกู้ภัยกว่าพันคน ค้นหาผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะการช่วยชีวิตคนงานหลายสิบชีวิตที่ติดอยู่ในอุโมงค์ที่ถูกดินโคลนไหลปิดทางเข้า-ออกจนมิด และสามารถช่วยชีวิตดึงออกมาได้แล้ว 12 คนนั้น ทางการอินเดียได้ส่งทีมนักวิทยาศาสตร์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจดูบริเวณยอดเขาที่เกิดอุบัติเหตุล่าสุดนี้ ในวันรุ่งขึ้นทันที เพื่อค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างแท้จริงกันแน่!!

...

เบื้องต้น ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบว่าทำไมธารน้ำแข็งบริเวณด้านล่างของยอดเขานันทาเทวี (Nanda Devi) ซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอินเดีย จึงระเบิดแตกเป็นเสี่ยงและพังถล่มจนทำให้น้ำทะลักถาโถมใส่เขื่อนด้านล่าง ก่อให้เกิดมหาภัยพิบัติครั้งใหญ่?

แม้แต่ โมฮัด ฟารูก อาซัม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านธารน้ำแข็งและอุทกวิทยา ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย ยังมีความเห็นว่า การเกิดธารน้ำแข็งระเบิดและพังลงมาอย่างรุนแรง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ

นอกจากนั้น ภาพถ่ายดาวเทียมและกูเกิล เอิร์ธ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยแสดงให้เห็นว่ามีทะเลสาบธารน้ำแข็งใกล้ๆ กับเขตนี้มาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่อาจมีแอ่งน้ำในเขตนี้

สภาพธารน้ำแข็ง
สภาพธารน้ำแข็ง


ย้อนดูการก่อเกิดธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็ง

การก่อตัวของธารน้ำแข็ง (glacier) สามารถเกิดขึ้นได้บนเทือกเขาสูงของทุกๆ ทวีป ยกเว้นออสเตรเลีย

ธารน้ำแข็งบางแห่งมีอายุหลายแสนปี ขณะที่บริเวณที่มีธารน้ำแข็งจำนวนมากที่สุดนั้น อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ตามแนวพรมแดนทางภาคเหนือของอินเดีย

ธารน้ำแข็งเกิดจากหิมะที่ตกลงมา มีการสะสมจนหนา 45-60 เมตร แล้วเกิดการเคลื่อนตัวลงมาอย่างช้าๆ ตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งธารน้ำแข็งมักจะเกิดบริเวณที่ลาดชัน หรือตามไหล่เขาสูง เมื่อธารน้ำแข็งไหลไปถึงตอนล่างก็จะค่อยๆ ละลายกลายเป็นแอ่งน้ำ หรือทะเลสาบ

และธารน้ำแข็งที่เกิดมหาภัยพิบัติพังถล่มครั้งล่าสุดในอินเดียนี้ เกิดขึ้นบริเวณธารน้ำแข็งด้านทิศตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย

ทำไมธารน้ำแข็งจึงระเบิดพังถล่มลงมา?

เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ธารน้ำแข็งนันทาเทวีบางส่วนระเบิดพังถล่ม และทำให้น้ำมหาศาลทะลักลงมาใส่เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า 2 แห่ง และหลายหมู่บ้านในรัฐอุตตราขัณฑ์

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ก็มีความเห็นว่า การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และแรงดันของน้ำ สามารถทำให้ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาสูงเกิดการระเบิดขึ้นได้

แต่เรื่องที่สร้างความหวั่นวิตกคือ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง นำมาสู่การเกิดภาวะโลกร้อน ที่ทำให้อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศโลกสูงขึ้น ส่งผลหิมะละลายเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน หิมะยังตกน้อยลง สามารถเป็นตัวเร่งที่ทำให้ธารน้ำแข็งละลาย จนทำให้ระดับน้ำในทะเลสาบธารน้ำแข็งสูงขึ้นจนถึงระดับอันตราย

...

ซาราห์ แดส ผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์ โฮล กล่าวว่า ขณะนี้ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาสูงส่วนใหญ่ทั่วโลก กำลังละลายและลดขนาดลงอย่างน่าวิตก อันเนื่องมาจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและภาวะโลกร้อน

น้ำแข็งบนโลกกำลังละลายเร็วขึ้นถึง 57% เมื่อเทียบกับ 3 ทศวรรษก่อน

รายงานการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Cryoshere พบว่า ในวันนี้น้ำแข็งบนโลกกำลังละลายเร็วขึ้นกว่าช่วงกลางทศวรรษ 1990 ถึงประมาณ 57% หรือมีน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งประมาณ 28 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร ได้ละลายกลายเป็นน้ำไหลลงสู่ทะเลในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

‘มันเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้ในช่วงเวลาแค่ 30 ปี’ โทมัส สเลเตอร์ นักธรณีวิทยาที่มหาวิทยาลัยลีดส์ในอังกฤษ ซึ่งร่วมเขียนรายงาน ระบุ

ตามรายงานอุณหภูมิชั้นบรรยากาศโลกสูงขึ้นประมาณ 1.1 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ช่วงก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่บริเวณมหาสมุทรอาร์กติก ที่ขั้วโลกเหนือ อุณหภูมิได้เพิ่มขึ้นถึงกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิโลกในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

...

ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยกำลังละลายอย่างรวดเร็ว
ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยกำลังละลายอย่างรวดเร็ว

นักวิทย์เผยธารน้ำแข็งที่หิมาลัยละลายเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2000

นอกจากนั้น ผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมในช่วง 40 ปี บริเวณทั่วประเทศอินเดีย เนปาล และภูฏาน บ่งชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกำลังกลืนกินธารน้ำแข็งบนหิมาลัย

รายงานการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Science Advances ในเดือนมิถุนายน 2019 ชี้ว่า ธารน้ำแข็งต่างๆบนเทือกเขาหิมาลัยได้ละลายเร็วขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อันเนื่องมาจากอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศโลกสูงขึ้น จนทำให้เกิดการสูญเสียน้ำแข็งในแนวตั้งไปถึง 1 ฟุตครึ่งในแต่ละปี

ที่น่าหวั่นวิตกตามมาอีกก็คือ การละลายอย่างรวดเร็วกว่าเดิมของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยกำลังส่งผลกระทบต่อการบริโภค และการใช้น้ำของประชาชนหลายร้อยล้านคนในหลายประเทศ รวมทั้งอินเดีย

...

ภาพถ่ายดาวเทียมโดยเทคโนโลยี Maxar แสดงให้เห็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติธารน้ำแข็งบนหิมาลัยพังถล่ม ทำน้ำทะลักซัดเขื่อน 2 แห่งแตก ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางภาคเหนืออินเดีย
ภาพถ่ายดาวเทียมโดยเทคโนโลยี Maxar แสดงให้เห็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติธารน้ำแข็งบนหิมาลัยพังถล่ม ทำน้ำทะลักซัดเขื่อน 2 แห่งแตก ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางภาคเหนืออินเดีย

 

นักวิทย์อินเดียฟันธง โลกร้อน ปัจจัยสำคัญธารน้ำแข็งหิมาลัยถล่ม

นักวิทยาศาสตร์ของอินเดีย 5 คนที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจดูธารน้ำแข็งบริเวณยอดเขานันทาเทวี ได้ถ่ายรูป ประกอบกับข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม และการรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ทำให้ทราบว่า ที่มาของมหันตภัยครั้งนี้เกิดจากธารน้ำแข็งบริเวณหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถเข้าถึงได้ ของบริเวณยอดเขาสูงที่เรียกว่า Raunthi

นักวิทย์เชื่อว่าบางส่วนของธารน้ำแข็งได้แขวนตัวอยู่บริเวณแนวลาดชันของภูเขา ซึ่งเมื่อเวลาผ่านพ้นไปนานขึ้น ธารน้ำแข็งที่แขวนเกาะตามแนวลาดชันได้อ่อนตัวลง เนื่องจากน้ำแข็งละลาย กระทั่งพังถล่มลงมาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา

ดร.คาลาจันด์ เซน ผู้อำนวยการสถาบันภูมิศาสตร์หิมาลัย ซึ่งได้ส่งทีมนักวิทยาศาสตร์ไปสำรวจบริเวณธารน้ำแข็งที่พังถล่ม กล่าวกับบีบีซีว่า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้น้ำแข็งละลาย และโครงสร้างของธารน้ำแข็งค่อยๆ ไม่แข็งแรง กระทั่งพังถล่มลงมา

ดร.เซน ยังกล่าวว่า มีธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยประมาณ 10,000 แห่ง โดยที่รัฐอุตตราขัณฑ์ รัฐเดียว มีธารน้ำแข็งถึง 1,495 แห่ง และขณะนี้ธารน้ำแข็งจำนวนมากกำลังละลายจนขนาดลดลงเนื่องจากอากาศอุ่นขึ้น

‘ถ้ามีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเช่นเหตุภัยพิบัติครั้งนี้ หรือแม้แต่เกิดเพียง 10% ของธารน้ำแข็งในอินเดีย ย่อมก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล’ ดร.เซน กล่าวเตือนด้วยความกังวล

และดูเหมือนสิ่งเดียวที่อินเดียพอจะทำได้ในการรักษาชีวิตประชาชน เพื่อหนีมหันตภัยเช่นนี้อีก คือ การต้องสำรวจความเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็งให้มากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่มันจะพังถล่มลงมา จากการที่น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นจากภาวะโลกร้อน.

ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์

ที่มา : aljazeerandtvBBC

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

นาทีสุดช็อก ธารน้ำแข็งบนหิมาลัยพัง ถล่มชนเขื่อนแตกที่อินเดีย ยอดตายพุ่ง (คลิป)