ยอดการตรวจคัดกรองโควิด-19 ในเมียนมาลดต่ำที่สุดนับตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมา ผลพวงจากการทำรัฐประหาร และการรวมตัวประท้วงครั้งใหญ่ของประชาชน หวั่นเผชิญการระบาดหนักหลังจากนี้

จำนวนประชาชนที่เข้าตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ในเมียนมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลดเหลือเพียง 1,989 คน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมปีที่แล้ว เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่มีจำนวนประชาชนที่ได้รับการตรวจคัดกรองมากกว่า 9,000 คน ขณะที่จำนวนผู้เข้ารับการตรวจโดยเฉลี่ยหลังรัฐประหารลดลงมาอยู่ที่ 9,350 คนต่อวัน เปรียบเทียบกับก่อนที่จะมีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์อยู่ที่กว่า 17,000 คนต่อวัน

นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันจันทร์ก็พบผู้ติดเชื้อเพียง 4 รายเท่านั้น ต่างจากสัปดาห์ก่อนที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยถึง 420 คนต่อวัน ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้มีการตรวจคัดกรองน้อยลง และพบผู้ติดเชื้อลดลง เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ต่างหยุดงานประท้วงการทำรัฐประหาร อีกทั้งประชาชนต่างออกไปประท้วง จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจเชื้อ

...

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ รัฐมนตรีสาธารณสุขของเมียนมายังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยมีเพียงแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ที่ขอร้องให้บุคลากรทางการแพทย์กลับมาทำงานเพื่อเดินหน้าตรวจคัดกรอง และดำเนินงานโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนต่อไป

ทั้งนี้ เมียนมา เผชิญวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 หนักที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยยอดผู้ป่วยสะสมที่ 141,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 31,177 ศพ โดยในช่วงที่รัฐบาลเมียนมา ภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี ยังบริหารประเทศ ได้มีการประกาศล็อกดาวน์จนสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ในระดับหนึ่ง และช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคมลง แม้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม.

ที่มา : รอยเตอร์