ธารน้ำแข็งบนเขาหิมาลัยแตก กลายเป็นหิมะถล่มชนเขื่อนอินเดียพังทลาย ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในรัฐอุตตราขัณฑ์ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ และสูญหายอีกนับร้อยคน

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ธารน้ำแข็งจากเทือกเขาหิมาลัยแตกออกมา กลายเป็นหิมะถล่มไหลชนเข้ากับเขื่อนบนภูเขาในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางเหนือของประเทศอินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ. 2564 ทำให้เขื่อนพังทลาย มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักลงจากเขาเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ และสูญหายอีกมากกว่า 100 คน

นายตรีเวนทรา สิงห์ ราวัต มุขมนตรี กล่าวในงานแถลงข่าวในคืนวันอาทิตย์ว่า เหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้แก่โครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานน้ำ ‘ริชิกังกา’ (Rishiganga) ในเขตชาโมลี ซึ่งมีคนงานทั้งหมด 35 คน และตอนนี้สูญหายไปประมาณ 29-30 ราย

นอกจากนี้ที่ปลายน้ำห่างออกไปราว 5 กม. น้ำท่วมฉับพลันยังสร้างความเสียหายแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของบริษัท NTCP บนแม่น้ำธอลีกังกา (Dhauliganga) ในขณะที่มีคนงานประมาณ 176 คนทำงานอยู่ในอุโมงค์ 2 จุด ซากปรักหักพังอุดเส้นทางไว้ โดยมีคนงานประมาณ 15 คนสามารถออกมาจากอุโมงค์สายหนึ่งได้ ก่อนที่คนงานอีก 35-50 คนจะได้รับการช่วยเหลือออกมา และคาดว่ามีคนงานมากกว่า 30 คนติดในอุโมงค์ที่ 2

...

นายสิงห์ ราวัต ยังประกาศว่า จะมอบเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต รายละ 400,000 รูปี หรือราว 165,000 บาทด้วย

ทั้งนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า หิมะที่ถล่มลงมาจากการแตกออกของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย พัดพาทั้งฝุ่น, หิน และน้ำ ลงสู่แม่น้ำธอลีกังกา ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นสายของแม่น้ำคงคา “น้ำมาเร็วมาก ไม่มีเวลาให้เตือนใครเลย” นายสันชัย สิงห์ รานา ผู้อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านไรนี ต้นแม่น้ำธอลีกังกา กล่าว

ขณะที่กองทัพอินเดียและเจ้าหน้าที่จากกองกำลังตอบสนองภัยพิบัติแห่งชาติ (NDRF) ถูกส่งมาสนับสนุนปฏิบัติการกู้ภัยด้วย และเจ้าหน้าที่ NDRF กำลังถูกส่งมาเพิ่มจากกรุงนิวเดลี โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงในวันจันทร์ ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำอลักนันดา (Alaknanda) ถูกขอให้อพยพไปยังที่ปลอดภัย.