นักวิจัยในสหราชอาณาจักร เตรียมเริ่มการทดลองฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ผลิตต่างวิธีกันให้อาสาสมัครเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการยับยั้งการระบาด
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.พ. 2564 สหราชอาณาจักรเริ่มการทดสอบเพื่อประเมินการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน ที่จะเกิดขึ้นหากฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 2 โดส ด้วยวัคซีนคนละชนิดกัน ซึ่งในกรณีนี้คือวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท ไฟเซอร์ กับบริษัท แอสตราเซเนกา
การทดลองดังกล่าวจะประเมินการตอบสนองหลังจากได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นโดสแรก ตามด้วยวัคซีนกระตุ้นจากแอสตราเซเนกา และในทางกลับกัน โดยจะให้วัคซีนห่างกัน 4 ถึง 12 สัปดาห์ และ คาดว่าผลการทดสอบเบื้องต้นออกจะออกมาในช่วงเดือนมิถุนายน
นี่นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการทดสอบฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด19 ซึ่งพัฒนาด้วยเทคโนโลยี mRNA เช่นของไฟเซอร์ ร่วมกับวัคซีนที่ใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำ (adenovirus viral vector) เช่นของแอสตราเซเนกา ขณะที่วัคซีนของแอสตราเซเนกากำลังถูกทดลองฉีดร่วมกับวัคซีนอะดิโนไวรัสที่ผลิตโดยบริษัทอื่นเช่น วัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย
นักวิจัยอังกฤษระบุว่า การทดลองนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้โครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และหาคำตอบว่า การให้วัคซีนต่างชนิดกัน จะทำให้การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันดีขึ้นหรือไม่