วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมขอนำ สุนทรพจน์ ของ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน วันเข้ารับตำแหน่งจาก สำนักข่าว VOA มาให้อ่านกันนะครับ จะได้เห็นถึง วิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศ มหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกคนใหม่ หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯได้ใช้อำนาจของมหาอำนาจอย่างบ้าคลั่ง บิดเบือนความจริง ทำให้โลกาภิวัตน์ล่มสลาย ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม การเมืองระหว่างประเทศ ทำให้โลกเบี้ยวใบนี้ ไม่มีมิตร มีแต่ศัตรู

โจ ไบเดน วัย 78 ปี เป็นผู้นำสหรัฐฯที่มีอายุมากที่สุดขณะเข้ารับตำแหน่ง เคยเป็นวุฒิสมาชิก 36 ปี เป็น อดีตรองประธานาธิบดี ของ บารัค โอบามา 2 สมัย 8 ปี

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เริ่มต้นสุนทรพจน์ว่า นี่เป็นวันของประชาธิปไตย วันแห่งประวัติศาสตร์และความหวังของการเริ่มต้นใหม่ เราได้เรียนรู้อีกครั้งว่า ประชาธิปไตยเป็นสิ่งลํ้าค่า ประชาธิปไตยนั้นเปราะบาง และชั่วโมงนี้ มิตรสหายทั้งหลาย ประชาธิปไตยได้รับชัยชนะแล้ว เราจะเดินหน้าด้วยความรวดเร็วและเร่งด่วน มีหลายเรื่องที่ต้องซ่อมแซม หลายเรื่องที่ต้องฟื้นฟู หลายเรื่องที่ต้องเยียวยา หลายอย่างที่ต้องสร้าง หลายอย่างที่ต้องเพิ่มพูน น้อยคนนักในประวัติศาสตร์ของประเทศเราที่เคยประสบปัญหาหรือช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทาย มากไปกว่าในช่วงเวลานี้

เราเสียงานไปหลายล้านตำแหน่ง ธุรกิจห้างร้านหลายแสนต้องปิดตัวลง เสียงเรียกร้องความยุติธรรมทางผิวสีที่มีมาเป็นเวลา 400 ปี ความฝันที่จะได้เห็นความยุติธรรมสำหรับทุกคนจะไม่ถูกผัดผ่อนอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีความสุดโต่งทางการเมือง กลุ่มเชิดชูคนผิวขาวแบบสุดโต่ง และการก่อการร้ายในประเทศ ที่เราต้องเผชิญและต้องเอาชนะให้ได้

ผมเข้าใจดีว่า คนอเมริกันหลายคนมองอนาคตด้วยความหวาดกลัวและประหวั่นพรั่นพรึง แต่ทางออกไม่ได้อยู่ที่การสนใจแต่ตัวเอง หรือการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่เชื่อใจกลุ่มคนที่มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนคุณ หรือไม่ได้เคารพบูชาเช่นเดียวกับคุณ หรือไม่ได้เสพข่าวจากแหล่งเดียวกับคุณ เราต้องยุติสงครามที่ไร้อารยธรรมนี้ ที่ทำให้ฝ่ายสีแดงหันมาสู้กับฝ่ายสีนํ้าเงิน ทำให้คนชนบทหันมาต่อสู้กับคนเมือง ทำให้กลุ่มอนุรักษนิยมต่อสู้กับกลุ่มหัวก้าวหน้า เราแก้ปัญหานี้ได้ หากเรายอมเปิดจิตวิญญาณ แทนที่จะทำให้จิตใจเราตายด้านไร้ความรู้สึก

...

เราจะเป็น “ผู้นำ” โดยการ เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้อำนาจ และ ด้วยอำนาจของการเป็นตัวอย่างที่ดี เราจะเป็น พันธมิตรที่เข้มแข็งและเชื่อใจได้ในการสร้างสันติ ความก้าวหน้า และความมั่นคง นี่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง เราต้องเผชิญกับการโจมตีประชาธิปไตยของเรา และการทำร้ายข้อเท็จจริง ท่ามกลางการระบาดของไวรัส ความไม่เสมอภาคที่มากยิ่งขึ้น การเหยียดผิวอย่างเป็นระบบ วิกฤติสภาพภูมิอากาศ บทบาทของอเมริกาในเวทีโลก ปัญหาเหล่านี้เพียงปัญหาเดียวก็สร้างความท้าทายให้เรามากพออยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ เราต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้พร้อมกัน เป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงที่สุดที่เราเคยมีมา

ขอให้ทุกคนเคารพกันและกัน การเมืองไม่จำเป็นต้องลุกเป็นไฟ ทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า การเห็นไม่ลงรอยกัน ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นสาเหตุของสงครามเบ็ดเสร็จ และเราจะต้องไม่ยอมรับวัฒนธรรมที่นำความเป็นจริงมาบิดเบือน จิตวิญญาณของผมคือการนำอเมริกากลับมาอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง ร่วมกันต่อสู้กับศัตรูที่เรากำลังเผชิญ ความโกรธ ความไม่พอใจ ความเกลียด ความบ้าคลั่ง ความไร้กฎหมาย การว่างงาน และความสิ้นหวัง ด้วยความสามัคคี ถ้าไม่มีความสามัคคี ย่อมไม่มีสันติภาพ ความสามัคคีคือทางเดินไปข้างหน้าที่เราต้องไปด้วยกันในฐานะสหรัฐอเมริกา

ผมขอชมว่านี่คือสุนทรพจน์ของ “ผู้นำ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่สุนทรพจน์ของ “ประธานาธิบดี” ในวันรับตำแหน่งเขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 15 ฉบับทันที เพื่อนำสหรัฐฯกลับเข้าสู่สังคมโลกอีกครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาคือตัวอย่างผู้นำที่ดีในการใช้อำนาจ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”