แจ็ค หม่า ไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะมานานกว่า 2 เดือน ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เขาหายไปไหน ขณะที่บริษัท อาลีบาบา ของเขา กำลังถูกรัฐบาลจีนตรวจสอบเรื่องการผูกขาด

สำนักข่าว ยาฮูนิวส์ รายงานในวันที่ 5 ม.ค. 2564 ว่า แจ็ค หม่า นักธุรกิจใหญ่และมหาเศรษฐีชาวจีนไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ทำให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นอย่างมากว่า เขาหายตัวไปไหน ท่ามกลางปัญหาระหว่างบริษัทของเขากับรัฐบาลจีน

ข่าวระบุว่า แจ็ค หม่า ไม่ได้ไปปรากฏตัวในตอนสุดท้ายของรายการ ‘Africa’s Business Heroes’ เมื่อเดือนพฤจิกายน ซึ่งจะมอบทุนให้กับนักธุรกิจชาวแอฟริกันจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายหม่าควรได้เป็นกรรมการในตอนสุดท้ายนี้ แต่กลับถูกแทนที่ด้วยผู้บริหารคนหนึ่งของอาลีบาบา และภาพของนายหม่าก็ถูกถอดออกจากเว็บไซต์ของรายการด้วย

โฆษกของอาลีบาบาระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นายหม่าไม่สามารถมาร่วมรายการได้ เนื่องจากปัญหาด้านตารางงาน

ทั้งนี้ การหายตัวไปของนายหม่าเกิดขึ้นในขณะที่ ‘แอนต์ กรุ๊ป’ (Ant Group) อาณาจักรธุรกิจของเขากำลังถูกตรวจสอบอย่างละเอียดจากรัฐบาลจีน หลังจากเขากล่าวสุนทรพจน์ที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อ 24 ต.ค. 2563 ที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ระบบตรวจสอบของจีน ว่า เป็นสิ่งที่หยุดยั้งการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และบอกว่า ระบบการเงินโลกเป็นคลับของเหล่าคนแก่

...

“ระบบการเงินในวันนี้เป็นมรดกจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม” นายหม่ากล่าว “เราต้องวางระบบใหม่เพื่อคนรุ่นต่อไปและคนหนุ่มสาว เราต้องปฏิรูประบบในปัจจุบัน”

ราว 1 สัปดาห์หลังจากนั้น การทำไอพีโอของ แอนต์ กรุ๊ป มูลค่ากว่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของจีนแล้ว ก็ถูกระงับ

นายมาร์ก โมเบียส นักลงทุนมากประสบการณ์ชาวอเมริกัน ระบุว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามจำกัด ไม่ให้สถาบันการเงินต่างๆ มีขนาดใหญ่เกินไป “ผมเชื่อว่ารัฐบาลจีนเข้ามาแทรกแซงเพราะพวกเขาตระหนักแล้วว่า พวกเขาต้องควบคุมดูแลบริษัทเหล่านี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ใหญ่เกินไป”

ต่อมาในช่วงปลายเดือนธันวาคม สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งชาติจีน หรือ State Administration for Market Regulation (SAMR) ก็เริ่มการสืบสวนบริษัท อาลีบาบา ว่ามีพฤติกรรมผูกขาดหรือไม่ด้วย