ฝรั่งเศสเตรียมยกเลิกคำสั่งห้ามออกจากบ้านตามกำหนด แต่จะเริ่มใช้มาตรการเคอร์ฟิวตอนกลางคืน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปจนถึงช่วงปีใหม่

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ฌอง กัสแต็กซ์ แห่งฝรั่งเศส เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 10 ธ.ค. 2563 ว่า รัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านในวันที่ 15 ธ.ค. ตามแผนเดิม แต่ในวันเดียวกันก็จะเริ่มบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 20:00 น. ถึง 06:00 น. รวมทั้งเลื่อนกำหนดการเปิดศูนย์วัฒนธรรมต่างๆ เนื่องจากอัตราการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดลงน้อยกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ หลังจากทางการเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งที่ 2 เมื่อเดือนตุลาคม

รัฐบาลฝรั่งเศสกำหนดเงื่อนไขจะผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือประมาณ 5,000 คนต่อวัน แต่ตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายงานยังสูงมาก โดยในวันพฤหัสบดีพบถึง 13,750 ราย “เรายังไม่สามารถยุติการระบาดระลอก 2 นี้ได้ และเราจะไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.” นายกัสแต็กซ์กล่าวในงานแถลงข่าว “เรายังประมาทไม่ได้ เราต้องมีสมาธิ และหาทางผ่านช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าด้วยความระมัดระวังอย่างสูง”

นายกรัฐมนตรี ฌอง กัสแต็กซ์ แห่งฝรั่งเศส
นายกรัฐมนตรี ฌอง กัสแต็กซ์ แห่งฝรั่งเศส

...

ทั้งนี้ การยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อีกครั้ง แต่นายกฯ ฝรั่งเศสย้ำว่า ศูนย์วัฒนธรรมและสถานบันเทิงต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์, โรงภาพยนตร์, โรงละคร และศูนย์กีฬาต่างๆ ซึ่งเดิมทีจะเปิดในวันอังคารหน้า จะถูกปิดต่อไปอีก 3 สัปดาห์ บาร์กับร้านอาหารจะปิดไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 20 ม.ค. 2564 ส่วนร้านค้าเริ่มเปิดตั้งแต่ 28 พ.ย. แล้ว

นอกจากนี้ จะไม่มีการผ่อนผันมาตรการเคอร์ฟิวในวันก่อนวันขึ้นปีใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการจัดงานอีเวนต์ใหญ่ๆ แต่จะผ่อนผันให้ในวันคริสมาสต์ โดยผู้ใหญ่จะรวมตัวกันได้ไม่เกิน 6 คน